กินคอลลาเจนอันตรายไหม ? หากกินไปนานๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย ซึ่งเป็นกระแสมาอย่างยาวนานสำหรับอาหารเสริมอย่างคอลลาเจน ที่ในช่วงระยะหลังมานี้อาหารเสริมประเภทนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่เห็นได้แพร่หลายมากขึ้นตามร้านสะดวกซื้อ หลายสื่อมีการประโคมคำขายตามโฆษณารีวิวคอลลาเจนที่ควรซื้อ ทั้งจากธรรมชาติและการรับประทานคอลลาเจนจากพืชรูปแบบต่าง ๆ ที่ชูจุดยืนของผลิตภัณฑ์นี้อย่างรับประทานแล้วผิวขาวขึ้น หน้าใสไร้สิว ซึ่งสิ่งที่สื่อสารตามโฆษณานั้นเป็นเพียงหนึ่งในความสามารถของคอลลาเจนเพียงเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วคอลลาเจนมีข้อดี และประโยชน์ต่อร่างกายในหลากหลายทาง
คอลลาเจนนั้นเป็นโปรตีนที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ หลายคนอาจจะตั้งคำถามต่อว่าถ้าหากร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาเองได้แล้ว ทำไมต้องรับประทานเพิ่ม เพราะว่ายิ่งอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายจากที่แต่ก่อนสามารถผลิตคอลลาเจนได้ถี่ และแข็งแรง ก็จะผลิตได้น้อยลงเรื่อย ๆ พร้อมกับมาตรฐานของคอลลาเจนที่เปราะบาง และเสียหายง่าย ทำให้จำเป็นต้องดูแลร่างกาย และบำรุงด้วยคอลลาเจน แต่การกินคอลลาเจนนานๆอันตรายไหม และมีผลข้างเคียงหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่ยังค้างคาใจของใครหลายคน มาคลายความสงสัยนั้นผ่านบทความชิ้นนี้กันได้
สำหรับใครที่กำลังสนใจ และศึกษาเกี่ยวกับการรับประทานคอลลาเจน อยากจะบอกว่าโปรตีนชนิดนี้เป็นที่รองรับของวงการแพทย์ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านของการทานที่หลายคนไม่รู้ ซึ่งคาดว่าเนื้อหาในบทความชิ้นนี้นำมาเสนอจะช่วยคลายความสงสัยของผู้อ่านได้อย่างตรงจุด
แน่นอนว่าหนึ่งในคำถามที่ถูกจั่วหัวมาตั้งแต่แรกอย่าง กินคอลลาเจนนานๆอันตรายไหม อาจจะต้องเกริ่นนำว่าการรับประทานคอลลาเจนควรอยู่ในปริมาณที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ประมาณ 10,000 มล. หากมีปริมาณมากกว่านี้อาจจะทำให้คอลลาเจน และสารสกัดอื่น ๆ ตกค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะไตที่มีหน้าที่กรองของเสียของร่างกาย ไตจะค่อย ๆ เริ่มทำงานหนัก และสั่งสมมากขึ้น การรับประทานคอลลาเจนจึงจำเป็นต้องทานให้เป็น และอยู่ในระดับที่ร่างกายสามารถรับได้
ได้คำตอบของการกินคอลลาเจนนานๆอันตรายไหมกันไปแล้ว ซึ่งคำตอบคือ ไม่อันตราย ถ้าหากคุณรับประทานในปริมาณที่ไม่มากเกินไป เพื่อให้การรับประทานคอลลาเจนของคุณปลอดภัย และมั่นใจได้ว่าคอลลาเจนที่ทานเข้าไปนั้นจะซึมผ่านเข้าร่างกายจริง ๆ ในเนื้อหาส่วนนี้จึงได้นำคำแนะนำการรับประทานคอลลาเจนเพื่อให้ทุกคนลองไปปรับใช้กัน
1. ดื่มน้ำตามเป็นระยะ
หลังจากที่คุณรับประทานคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายไปแล้ว ให้ดื่มน้ำตามเพื่อละลายคอลลาเจนให้มีโมเลกุลเล็กที่สุด วิธีนี้จะทำให้คอลลาเจนยิ่งดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะหากโมเลกุลของคอลลาเจนใหญ่ก็จะต้องใช้ระยะเวลานาน และที่สำคัญคืออาจจะถูกขับออกมาเป็นของเสียก่อนที่จะร่างกายจะดูดซึมครบทั้ง 10,000 มล.
2. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
เชื่อว่าผู้อ่านทุกคนจะรู้ดีว่าการดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีผลเสียในหลากหลายทาง หนึ่งในนั้นคือการทำให้ขั้นตอนการดูดซึมของคอลลาเจนที่เพิ่งรับประทานเข้าไปเป็นไปได้ยาก และอาจทำให้คอลลาเจนไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เมื่อคอลลาเจนไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าร่างกาย ก็ทำให้ต้องไปผ่านตัวกรองอย่างไต ซึ่งก็จะมีผลเป็นโดมิโน่ ไต่ทำงานหนัก และก่อให้เกิดเป็นปัญหาสุขภาพได้ในภายหลัง
หากคุณต้องการที่จะดื่มแอลกอฮอล์จริง ๆ สามารถที่จะดื่มได้ โดยไม่กระทบกับคอลลาเจนที่ร่างกายกำลังดูดซึมอย่างช้า ๆ คือ ทิ้งระยะหลังจากรับประทานคอลลาเจนเป็นอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมคอลลาเจนจนเรียบร้อยแล้ว ท้องว่างพอสำหรับการดื่มแอลกอฮอล์ เพียงเท่านี้ก็ไม่เป็นการรบกวนขั้นตอนการดูดซึมของคอลลาเจนแล้ว
3. เลี่ยงการรับประทานผลไม้ที่มีน้ำเยอะ
คาดว่านี่น่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่รู้ และอาจจะเผลอทำกันด้วยซ้ำคือ การกินผลไม้ที่มีน้ำเยอะอย่างแตงโม, แตงกวา และแตงไท ที่จะมีน้ำของผล ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการขับถ่ายได้ง่าย หากคุณเพิ่งรับประทานคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายไปได้สักพัก และรับประทานผลไม้ที่มีน้ำมากตามต่อ มีโอกาสที่คอลลาเจนจะถูกขับออกมา และทำให้ไตทำงานหนัก ที่สำคัญคือคอลลาเจนไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่ด้วยนั้นเอง
เรื่องข้อจำกัดในการรับประทานคอลลาเจนยังไม่ได้หมดลงเพียงเท่าที่กล่าวไปก่อนหน้า เพราะผู้ที่มีโรคประจำตัวในบางกรณีก็ไม่สามารถที่จะรับประทานคอลลาเจนได้ เนื่องจากอาจเป็นการรบกวนอวัยวะที่เป็นปัญหาอยู่ หรือทำให้เกิดผลกระทบต่อการรักษาของแพทย์ หากต้องการที่จะรับประทานคอลลาเจน ควรปรึกษากับแพทย์เจ้าของไข้ก่อน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการรับประทานคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายนี้จะส่งผลดีกับร่างกายจริง ๆ จะมีโรคที่ห้าม กินคอลลาเจนไปติดตามกันต่อได้ ดังนี้
นี่เป็นเพียงบางโรคที่ห้าม กินคอลลาเจนที่มักพบเจอได้ง่าย และมักจะเป็นคำถามกันอยู่บ่อย ๆ แต่ยังมีโรคอื่น ๆ อีกมากที่ยังไม่เป็นที่แนะนำให้รับประทานคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย ในช่วงที่กำลังทำการรักษา หรือเป็นโรคชนิดนั้นอยู่ หากคุณกำลังป่วยเป็นโรคประจำตัว และต้องการที่จะรับประทานคอลลาเจน ควรสอบถามกับทางแพทย์เพื่อให้ปลอดภัยกับตัวคุณเอง และเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาของแพทย์ด้วย
เพื่อเป็นการปูภาพรวมของคอลลาเจนทั้งในแง่ของประโยชน์ และโทษ ในเนื้อหาส่วนหนึ่งของบทความชิ้นนี้ได้มีการพูดถึงโทษของคอลลาเจนจากการกินคอลลาเจนนานๆอันตรายไหม ที่เป็นหัวข้อหลักของบทความชิ้นนี้ ในเนื้อหาส่วนนี้จึงขอโฟกัส และให้ความสำคัญกับประโยชน์ของคอลลาเจนเป็นหลัก
1. ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
สำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานคอลลาเจนเพื่อให้ผิวพรรณสว่างใส และลดเลือนจุดด่างดำ นี่ไม่ใช่ความต้องการที่ไกลเกินฝันแต่อย่างใด เพราะมีการทดลองให้กลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งรับประทานคอลลาเจนภายใน 12 สัปดาห์ ปรากฏว่าผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวนั้นมีผิวพรรณที่ดูสดใส และยังช่วยกู้ผิวแห้งกร้าน ให้กลับมาเป็นผิวชุ่มชื้นฉ่ำน้ำได้อีกด้วย
2. กระดูกแข็งแรง
ใครที่จำข้อมูลเบื้องต้นของคอลลาเจนที่สามารถพบได้บ่อยในหลอดเลือด และเส้นเอ็น แน่นอนว่าเมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนในอวัยวะดังกล่าวจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพ อัตราการสร้างคอลลาเจนก็ลดลงหลายเท่าตัว กระดูกเริ่มเปราะบ้าง พบปัญหาข้อต่ออยู่บ่อยครั้ง การได้รับประทานคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงอายุเข้าเลข 2 จะช่วยทำให้ความแข็งแรงของมวลกระดูกยืดออกไปได้
มีการทดลองที่ประเทศญี่ปุ่นที่แบ่งผู้คนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานคอลลาเจน ร่วมกับแคลเซียม และอีกกลุ่มรับประทานเพียงแค่แคลเซียนเพียงเท่านั้น การทดลองนี้ให้เวลาในการรับประทานตามโจทย์เป็นเวลา 12 เดือน พบว่ามวลความแข็งแรงของกลุ่มแรกมีความแข็งแรงมากกว่ากลุ่มที่สอง หมายความว่าคอลลาเจนสามารถบำรุงกระดูกให้แข็งแรงได้ด้วยนั้นเอง
3. ลดปัญหาผมร่วง
หนึ่งในปัญหาของผู้ที่เข้าวัยชราคือผมหลุดร่วงง่าย และผมบางลงอย่างเห็นได้ชัด นี่อาจเกิดมาจากคอลลาเจนที่อยู่ใต้หนังศีรษะต่ำลง และทำให้รากผมอ่อนแอเป็นพิเศษ เกิดการหลุดร่วงได้ง่ายกว่าที่เคยเป็น ถ้าคุณคาดการณ์ว่าปัญหาของคุณเกิดจากการขาดคอลลาเจน การรับประทานคอลลาเจนเพิ่มเติมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดปัญหาดังกล่าว
4. ลดปัญหาสิว
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้คนในทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือแก่ นั้นคือปัญหาผิวเป็นสิว การได้รับคอลลาเจนเข้าไปจะช่วยทำให้ชั้นผิวหนังเกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น และลดโอกาสในการเกิดสิวได้ตามลำดับ อย่างไรก็ดีคุณควรควบคู่กับการรักษาความสะอาดของใบหน้าเพื่อลดสาเหตุในการเกิดสิวให้ได้มากที่สุด
5. ลดปัญหาเล็บเปราะบาง
จัดได้ว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับสาว ๆ ที่ทำเล็บ เนื่องจากหน้าเล็บจะมีความเปราะบางง่ายกว่าปกติ หากทำเล็บบ่อยครั้ง แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้ทาเล็บ หรือต่อเล็บก็พบว่ามีเล็บที่เปราะ และบางพอ ๆ กัน นี่อาจเป็นปัญหาที่มาจากคอลลาเจนต่ำ และเสียหายได้ง่าย แน่นอนว่าการได้เสริมคอลลาเจนเข้าไปจะช่วยให้เล็บมีความแข็งแรง และไม่หลุดลอกแบบที่เคยเป็นมา
ได้เห็นทุกมิติของการรับประทานคอลลาเจนกันไปมากแล้ว สำหรับใครที่ยังสงสัยอยู่ว่าแล้วใครควรกินคอลลาเจน เนื้อหาส่วนนี้จะทำการสรุปเป็นหัวข้อเพื่อให้ทุกคนได้ไปลองเช็กลิสต์กัน จะมีหัวข้อไหนที่ตรงกับตัวคุณบ้างไหมนั้นไปติดตามกันได้ ดังนี้
และอื่น ๆ อีกมาก เพราะจริง ๆ แล้วทุกคนสามารถรับประทานคอลลาเจนได้ เพียงแค่มีอายุมากกว่า 15 ปีเป็นต้นไป เหตุผลที่ทำไมต้องมีอายุ 15 ปีก่อนถึงเหมาะกับการรับประทานคอลลาเจน เพราะว่าตั้งแต่เกิดจนกระทั่งอายุ 20 ปีนั้น ร่างกายสามารถผลิต และเสริมสร้างคอลลาเจนที่แข็งแรงเองได้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องรับประทานคอลลาเจนเพิ่มเติม อายุที่ควรเริ่มใส่ใจสุขภาพ และหันมาเริ่มรับประทานคอลลาเจนควรจะเป็นอายุช่วง 25 ปีเป็นต้นไป นั้นก็เพราะว่าตั้งแต่อายุ 25 ปีเป็นต้นไปนั้นจะสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิวไปเรื่อย ๆ ในทุกปี 1.5% และจะยิ่งสูญเสียหนักขึ้นในช่วง 30 ปี เพราะร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง และยังต้องสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิวไปมากถึง 30% ต่อปี
หลายคนคงพอจะทราบแล้วว่าคอลลาเจนเป็นประเภทหนึ่งของโปรตีนที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเส้นใยที่สนับสนุนร่างกายของคนเรา มันมีความสำคัญในการรักษาความสมดุลของผิวพรรณและส่วนร่างกายอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยคุณสมบัติที่สำคัญเหล่านี้ คอลลาเจนกลายเป็นสารสำคัญในอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ความงามที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงสมัยหนึ่ง
แต่ก่อนที่คุณจะหลงเชื่อในประโยชน์ของคอลลาเจนและเริ่มบริโภคมันอย่างเต็มที่ คุณอาจจะสงสัยว่ากินคอลลาเจนอาจเป็นอันตรายหรือไม่? ในหัวข้อต่อไปนี้จะช่วยตอบคำถามเหล่านี้และสำรวจข้อจำกัดของการบริโภคคอลลาเจน รวมถึงสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการบริโภคคอลลาเจนอีกด้วย
ในหัวข้อนี้จะพาคุณมุ่งไปสู่การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ควรปรับปรุงและหลีกเลี่ยงเมื่อรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจนหรืออาหารที่มีคอลลาเจนจากธรรมชาติ ในแบบที่ปลอดภัยและสามารถส่งมอบประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่จำเป็นต้องมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการรับประทานอย่างยาวนาน โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
แอดมินได้รวบรวมผักและผลไม้ที่มีปริมาณคอลลาเจนสูง ซึ่งเป็นการรับประทานคอลลาเจนจากพืชจากธรรมชาติที่ส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทั้งหมดนี้เป็นสารที่มีประโยชน์ในการดูแลผิวหน้า ยกตัวอย่างเช่น
ทั้งหมดนี้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับประเด็นที่หลายคนน่าจะสงสัยเกี่ยวกับการรับประทานคอลลาเจนอย่าง กินคอลลาเจนนานๆอันตรายไหม, โรคที่ห้าม กินคอลลาเจนอะไรบ้าง, คอลลาเจน ประโยชน์ โทษ ใครควรกินคอลลาเจนบ้าง หรือแม้แต่การรับประทานคอลลาเจนจากพืช ทุกคำถามได้ถูกคลี่คลาย และทำให้กระจ่างไปแล้วในบทความชิ้นนี้ สำหรับใครที่สนใจคุณควรที่จะรู้ว่าคอลลาเจนสามารถที่จะหาได้ตามธรรมชาติกับผัก และผลไม้ แต่ถ้าหากไม่สะดวกการรับประทานคอลลาเจนแบบอาหารเสริมก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่พกพาง่าย รับประทานได้ไม่ยาก
อ้างอิง:
What Happens to Your Body When You Take Collagen Supplements Every Day?. https://www.health.com/collagen-supplements-result-7374943