รู้หรือไม่ว่าสำหรับคนที่แพ้อาหารทะเลสามารถรับประทาน คอลลาเจนจากพืช ได้ ใครที่ชื่นชอบในการรับประทานคอลลาเจน จะรู้กันดีว่าหนึ่งในส่วนผสมหลักของคอลลาเจนคงหนีไม่พ้นกับปลาน้ำลึกกันอย่างแน่นอน เหตุผลที่ปลามักจะเป็นส่วนผสมหลักของคอลลาเจน เนื่องจากปลาเป็นแหล่งรวมคอลลาเจนชั้นดี และยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย เหตุนี้ทำให้คอลลาเจนยี่ห้อไหนดีที่สุดในตลาดมักมีส่วนผสมของปลาอยู่เสมอ นี่ได้กลายเป็นหนึ่งในปัญหาของผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทะเล หรือปลา
แต่ไม่นานมากนักเมื่อผู้ผลิตหลายเจ้าได้เห็นช่องว่างของโอกาสในการตลาด ก็ทำให้เกิดคอลลาเจนประเภทใหม่ที่เรียกว่า คอลลาเจนจากพืช ที่ทำมาเพื่อผู้ที่ต้องการรับประทานคอลลาเจน สำหรับ มังสวิรัติ และยังเอื้อให้กับผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทะเล หรือปลาให้สามารถรับประทานได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะแพ้ ถือเป็นคอลลาเจนทางเลือกสำหรับผู้ที่มีผิวขาดคอลลาเจนที่น่าสนใจไม่น้อย
คอลลาเจนจากพืช คือคอลลาเจนที่พัฒนามาจากพืชเป็นหลัก ถึงแม้คอลลาเจนส่วนใหญ่จะถูกพัฒนามาจากสัตว์ แต่ในพืชผัก และผลไม้เองก็เป็นแหล่งรวมคอลลาเจนชั้นดีที่ได้ตามธรรมชาติ นักพัฒนาได้ใช้ไฮดรอกซีโพรลีน และไกลซีน โพรลีน และไฮดรอกซีโพรลีนจากพืชมาปรับเปลี่ยนรูปแบบคอลลาเจนจากพืชให้มีคุณค่าเหมือนกันกับเนื้อวัว มักจะมีการผสมวิตามินอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสามารถของคอลลาเจนให้บำรุงร่างกายได้ดี และเหนือชั้นกว่าคอลลาเจนที่ได้จากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส และกระตุ้นการผลิตของคอลลาเจน, ทองแดงกู้ผิวคล้ำเสียให้กลับมาเป็นผิวสว่างกระจ่างใสได้ หรือแม้แต่สังกะสีที่มีความโดดเด่นอยู่ที่การบำรุงเล็บ, ผม และผิวหนังได้ครบหมดในตัวเดียว
โดยจุดประสงค์ของการพัฒนาคอลลาเจนจากผัก ผลไม้นี้ก็เพื่อสร้างทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการรับประทานคอลลาเจนเสริมให้กับร่างกาย ถึงแม้ว่าร่างกายจะสามารถผลิต และกระตุ้นการเกิดใหม่ของคอลลาเจนเองได้ แต่ยิ่งอายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนจะต่ำลงเรื่อย ๆ ยิ่งอายุเข้าเลข 3 อัตราการผลิตคอลลาเจนลดลง และคอลลาเจนเดิมที่เคยมีอยู่นั้นจะเสื่อมสภาพมากถึง 30% ต่อปี
ทำให้เทรนด์การรับประทานคอลลาเจนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ แต่เนื่องจากหลาย ๆ แบรนด์คอลลาเจนในท้องตลาดล้วนใส่ส่วนผสมของปลา หรือเกล็ดปลาด้วยกันทั้งนั้น เหตุผลที่ต้องใช้เลือกปลาเป็นหลักในการผลิตคอลลาเจนเพราะเนื้อปลาเต็มไปด้วยคอลลาเจนชั้นเลิศ และยังอุดมไปด้วยสารสกัดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และผิวพรรณ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่อยากรับประทานเนื้อสัตว์ และมีผู้ที่แพ้อาหารทะเล แต่ต้องการรับประทานคอลลาเจน จึงทำให้เกิดคอลลาเจนจากพืชขึ้นมาในที่สุด และคอลลาเจนทางเลือกนี้ก็ประสบความสำเร็จ อีกทั้งเป็นที่สนใจของตลาดคนรับประทานมังสวิรัติอย่างมาก
เมื่อได้ทราบไปแล้วว่าคอลลาเจนจากพืช คืออะไร และคอลลาเจนจากพืช ดียังไง ทำไมถึงได้กลายเป็นคอลลาเจนทางเลือกที่น่าจับตามองในวินาที อยากพาทุกคนไปรู้จักกับผัก และผลไม้ที่มักเป็นส่วนผสมหลักในคอลลาเจนจากพืชกัน จะมีผัก และผลไม้อะไรบ้างนั้นไปติดตามรายละเอียดที่นำมาฝากกันได้เลย
1. มะพร้าว
ผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่าช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับน้ำมันมะพร้าวที่หลายคนมักจะนำไปทาผิวเพื่อบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น หายแห้งกร้าน อีกทั้งความน่าสนใจของน้ำมันมะพร้าวนี้ยังมีฮอร์โมนพืชอย่าง ฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่มีความใกล้เคียงกันกับฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และยังช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่งดูสุขภาพดีได้อีกด้วย หากพูดถึงน้ำมะพร้าวที่ก็มีดีไม่แพ้กัน เพราะในน้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการดูดซึมของคอลลาเจน และยังช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส กู้ผิวหมองคล้ำได้ดีไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม หรือวิตามินซีก็ล้วนมีอยู่ในน้ำมะพร้าว
2. ฝรั่ง
ฝรั่งจัดได้ว่าเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยวิตามินซี ทั้ง ๆ ที่รสชาติไม่ได้เปรี้ยวเท่ากับผลไม้ขึ้นชื่อหลาย ๆ ชนิด แต่ฝรั่งนี้กลับเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก และยังช่วยเสริมระบบขับถ่ายให้สามารถทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ผลไม้ชนิดนี้ยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน พร้อมกับเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรง ทนทาต่อแสงแดด และมลภาวะที่คุณถูกทำร้ายเซลล์ผิวไปโดยไม่รู้ตัวจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน
3. สาหร่ายทะเล
นี่เป็นพืชที่อาจไม่ได้มีสารช่วยในการเร่ง หรือผลิตคอลลาเจนได้อย่างตรงไปตรงมาเหมือนกันกับพืชผัก และผลไม้ก่อนหน้า แต่ความโดดเด่นของสาหร่ายทะเลนี้คือ ไฮยาลูรอนิก ที่ส่วนช่วยบูสผิวฉ่ำน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้น และยังช่วยชะลอริ้วรอยที่เป็นหนึ่งในปัญหาหลักของใครหลายคนได้เป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นสาหร่ายทะเลเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของคอลลาเจนจากพืช
4. กระเทียม
นี่มักจะเป็นผักที่หลายคนไม่ชอบเนื่องจากมีกลิ่น และรสชาติที่ฉุนเกินเมื่อได้อยู่ในมื้ออาหาร แต่รู้หรือไม่ว่ากระเทียมนี้เป็นพืชที่มีประโยชน์อย่างมากทั้งในแง่ของการบำรุงคอลลาเจนให้มีความแข็งแรง ไม่ผิดรูป และมีอายุอยู่ใต้ชั้นผิวได้ยาวนานมากขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนในการกระตุ้นการผลิตของคอลลาเจนใหม่ ๆ เนื่องจากในกระเทียมมีสารซัลเฟอร์ที่มีความสามารถโดยตรงกับเรื่องคอลลาเจนนั้นเอง
5. ว่านหางจระเข้
สำหรับคนไทยแล้วพืชอย่างหว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีประโยชน์หลากหลาย และมักเป็นส่วนผสมหลักของครีมบำรุงผิวชั้นดี คุณสมบัติพื้นฐานที่ทุกคนรู้กันดีคือ ช่วยในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว และลดเลือนจุดด่างดำได้เพิ่มเติม แต่เมื่อไม่นานมานี้สถาบันวิจัยของประเทศญี่ปุ่นพบว่าว่านจระเข้นั้นมีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้ และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวให้สามารถกลับมาทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้เชื่อว่าผู้อ่านจะได้เข้าใจข้อมูลของคอลลาเจนจากพืชกันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย อีกทั้งยังได้รู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผัก และผลไม้ที่เป็นแหล่งรวมคอลลาเจนชั้นดีที่หลาย ๆ แบรนด์คอลลาเจนในท้องตลาดมักนำไปเป็นส่วนผสมหลักของการผลิตคอลลาเจนกัน ทุกคนสามารถหาคอลลาเจนมาเพื่อรับประทานได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรับประทานคอลลาเจนได้ดี และมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื้อหาส่วนนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกว่าควรรับประทานคอลลาเจนอย่างไร หรือทานคู่กันกับอะไร เพื่อให้คอลลาเจนทำงานได้ดีที่สุด
การรับประทานคอลลาเจนให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี และนำไปบำรุงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้นั้น ควรรับประทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับการดื่มน้ำ หลังจากที่รับประทานคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายไปแล้ว ก็ยิ่งควรดื่มน้ำให้อยู่ในระดับที่ร่างกายต้องการ หรือ 6-8 แก้ว
แน่นอนว่าใครหลายคนเลือกที่จะรับประทานคอลลาเจนเพราะเรื่องผิวพรรณ ที่ต้องการให้ผิวขาวกระจ่างใสทั่วเรือนร่าง หรือแก้ไขปัญหาเรื่องผิวหน้าเป็นสิว มีหลุม และไม่เรียบเนียน การรับประทานคอลลาเจนอย่างเดียวสามารถช่วยในเรื่องเหล่านี้ได้จริง แต่ต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร การหาตัวช่วยอย่างวิตามินซีเพื่อเสริมแรงกู้ผิวคล้ำเสียให้กลับมาแข็งแรง กลายเป็นผิวสวยใสได้เร็ว และดีขึ้นแบบสปีดผิวไบร์ทภายในไม่ถึงเดือนได้เลยทีเดียว
ลงลึกเกี่ยวกับเนื้อหาด้านวิธีการรับประทานคอลลาเจนกันต่อกับพฤติกรรมที่คุณควรหลีกเลี่ยง หากต้องการให้คอลลาเจนจากพืชที่รับประทานเข้าไปสามารถที่จะทำงานได้เต็มศักยภาพและส่งผลดีกับร่างกายได้เต็มที่ หากกินไปนาน ๆ คอลลาเจนอันตรายไหม? หรือจะมีข้อห้ามพฤติกรรมอะไรบ้าง ไปติดตามเนื้อหากันต่อได้เลย ดังนี้
หนึ่งในพฤติกรรมที่หลายคนอาจไม่รู้ว่านี่เป็นพฤติกรรมที่ขัดขวางคอลลาเจนในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แน่นอนว่าหากคอลลาเจนที่คุณรับประทานเข้าไป ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ก็แทบจะทำให้การรับประทานคอลลาเจนของคุณนั้นไร้ค่า หากต้องการดื่มแอลกอฮอล์ภายในวันเดียวกันกับที่รับประทานคอลลาเจน คำแนะนำคือ การรับประทานคอลลาเจนอย่างน้อย 3 ชั่วโมงอย่างต่ำก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
การรับประทานผลไม้ยังไงก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้าคุณรับประทานคอลลาเจนประเภทอาหารเสริมเข้าสู่ร่างกายไปแล้ว การรับประทานผลไม้ที่มีน้ำเยอะมาก ๆ อย่าง แตงกวา แตงไท หรือแตงโม เนื่องจากผลไม้เหล่านี้อาจจะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการขับถ่ายได้ง่าย ยิ่งถ้าคุณเพิ่งรับประทานคอลลาเจนเข้าไป ยังไม่ทันที่ร่างกายจะดูดซึม หรือนำคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งหมด ก็อาจจะถูกร่างกายขับออกเสียก่อน เพราะฉะนั้นแล้วหลังจากที่รับประทานคอลลาเจนเข้าไป ยังไม่ควรทานผลไม้ที่มีน้ำเยอะตาม
การรับประทานคอลลาเจนไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนไม่ได้ถูกบำรุงได้เต็มที่ ทำให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการก็เห็นได้ช้าลง หรืออาจไม่เห็นได้เลยก็ว่าได้ เพราะการรับประทานคอลลาเจนแบบวันเว้นวันนั้นเป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพ ควรฝึกนิสัยการรับประทานคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าที่ท้องว่าง
ปิดท้ายไปกับการรับประทานของหวานให้น้อยลง เพราะของหวานนี้เป็นศัตรูตัวร้ายของคอลลาเจนกันเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเมื่อทานของหวานเข้าสู่ร่างกายไปแล้ว น้ำตาลจะเข้าไปทำลายรูปทรงเดิมของคอลลาเจน ทำให้เกิดการผิดรูป และบอบบาง ถูกทำลายได้ง่าย ต่อให้คุณรับประทานคอลลาเจนเพื่อกระตุ้น หรือเร่งการผลิตคอลลาเจนมากเท่าไหร่ แต่เมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาแล้ว กลับถูกน้ำตาลทำลายอย่างง่ายดาย นี่คงไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวังแน่นอน
คอลลาเจนมีบทบาทสำคัญในการสร้างเส้นใยของเนื้อเยื่อทั่วไป นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการสร้างโครงสร้างที่รองรับผิวหนัง รวมถึงเส้นผมและเล็บด้วย อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคอลลาเจนในการดูแลผิวหนังยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ผิวหนังขาดคอลลาเจนจะแสดงอาการที่ชัดเจน เช่น ริ้วรอยที่มากขึ้น หย่อนคล้อย และไม่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสภาพผิวหนังอื่น ๆ เช่น ผมและเล็บ ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่สนใจในการดูแลผิวหนังและสุขภาพทั่วไป คอลลาเจนจากพืชอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณในกรณีที่แพ้อาหารทะเล แล้วใครควรบริโภคคอลลาเจนบ้าง? มาดูหัวข้อต่อไปนี้เพื่อให้คุณมีข้อมูลที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจและดูแลสุขภาพผิวหนังของคุณอย่างเหมาะสม
คอลลาเจนเป็นสารที่มีประโยชน์อย่างมากในร่างกายของคนเรา โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีโรคที่เกี่ยวกับการเสื่อมของข้อต่าง ๆ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ใส่ใจในการดูแลผิวพรรณ ผู้ที่ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องผมหลุดร่วง รวมถึงกลุ่มอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่ให้ทราบว่า คอลลาเจนนั้นสามารถเริ่มรับประทานได้เมื่อคุณมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี เพราะจนถึงอายุ 20 ปี ร่างกายเรายังสามารถผลิตและสร้างคอลลาเจนได้ด้วยตนเอง อายุที่เหมาะสมในการเริ่มรับประทานคอลลาเจนคือตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากร่างกายจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวทุกปีๆ ประมาณ 1.5% และขั้นที่ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อคุณมีอายุเกิน 30 ปี ทำให้ต้องการคอลลาเจนจากแหล่งอื่น เช่น ผ่านทางอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฉะนั้นแล้วใครที่สงสัยว่าคอลลาเจนอันตรายไหมคุณสามารถไว้วางใจได้เลย เพราะสิ่งนี้มีอยู่ในร่างกายของคนเราทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ใครที่เลือกเสริมคอลลาเจนด้วยอาหารเสริม จะต้องเลือกแบรนด์ที่มี อย. หรือมีคุณภาพสูงเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย
สรุปได้ว่า หากมีอายุมากกว่า 15 ปี คุณสามารถเริ่มการบริโภคคอลลาเจนได้ เพราะระหว่างวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนได้เองอย่างมาก เมื่อถึงอายุ 25 ปี การบริโภคคอลลาเจนจึงเป็นสิ่งที่ควรคิดถึงเพราะร่างกายจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิวของเราเรื่อย ๆ และการสูญเสียนั้นจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณมีอายุเกิน 30 ปี
หากร่างกายได้รับคอลลาเจนที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้ผิวขาดคอลลาเจนได้ หากผิวของคุณขาดคอลลาเเจนมาดูกันว่าอาการและสัญญาณเตือนว่าคุณต้องเติมคอลลาเจนแล้วจะมีอะไรบ้าง เพราะหากละเลยอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพของผิวหนังของคุณได้
เนื้อหาทั้งหมดนี้เป็นการเบิกเส้นทางใหม่ในการรับประทานคอลลาเจนที่เรียกว่า คอลลาเจนจากพืช จะเห็นได้ชัดเจนว่าคอลลาเจนจากพืช ดียังไง และยังเหมาะกับผู้คนที่หลากหลายแทบทุกกลุ่ม ต่อให้คุณเป็นผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทะเล หรือปลา หากใครที่เริ่มสังเกตุเห็นอาการขาดคอลลาเจนก็สามารถรับประทานคอลลาเจนในรูปแบบนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องรับประทานเข้าสู่ร่างกายไปแล้วจะเกิดอาการแพ้แต่อย่างใด และนี่ยังเป็นคอลลาเจน สำหรับ มังสวิรัติอีกด้วย เพราะไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ 100%
อ้างอิง:
ผิวสวย แข็งแรง กระชับกว่าใคร ด้วยคอลลาเจนจากพืชพรรณธรรมชาติ. https://www.wongnai.com/articles/get-healthy-skin-by-pro-collagen-signature