ที่ไม่ได้มีดีแค่ขัดผิว
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงมาก นอกจากน้ำกาแฟที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว กากกาแฟที่เป็นของเหลือทิ้งจากการทำกาแฟก็มีประโยชน์เช่นกัน ซึ่งในกากกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด วันนี้เรามี ประโยชน์ของกากกาแฟ ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น มาฝากกัน
ประโยชน์ของกากกาแฟ
กากกาแฟที่เหลือจากการทำเครื่องดื่มกาแฟถือเป็นของเหลือทิ้งที่แลดูไม่มีคุณค่า ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วกากกาแฟที่เหล่านี้มีสารที่มีประโยชน์และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งประโยชน์ของกากกาแฟ มีดังนี้
- ปุ๋ยปลูกต้นไม้ กากกาแฟมีไนโตรเจน แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโครเมียม (Chromium) ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ ดังนั้นการใช้กากกาแฟผสมในดินสำหรับปลูกต้นไม้จะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี การใช้เป็นปุ๋ยปลูกต้นไม้สามารถใช้กากกาแฟสด ๆ ไม่ต้องตากแห้ง
- ขัดกระทะให้เหมือนใหม่ เราสามารถใช้กากกาแฟมาขัดคราบบนกระทะให้ออกหมดจด โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฝอยขัดหม้อเลย เพียงแค่เอากากกาแฟมาใส่ถุงผ้าเก่า ๆ แล้วนำไปขัดกระทะแค่นี้คราบกระทะจะหลุดออกทันที
- ดับกลิ่นอับ สำหรับบ้านไหนที่มีปัญหากลิ่นอับ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับในตู้เย็น ตู้กับข้าว ห้องครัวหรือตู้เสื้อผ้า สามารถใช้กากกาแฟมีสารไนโตรเจนที่ช่วยดูดซับก๊าซซัลเฟอร์ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นอับจึงดับกลิ่นอับให้หมดไปได้ โดยการนำกากกาแฟที่ตากจนแห้งสนิทใส่ในถ้วยไปวางตามจุดที่ต้องการดับกลิ่น ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนกลิ่นอับก็จะจางหายไป
- กำจัดหมัดสัตว์เลี้ยง สำหรับใครที่สัตว์เลี้ยงมีหมัดสามารถใช้กากกาแฟช่วยขจัดหมัดได้ โดยการนำกากกาแฟมาทำผสมกับแชมพูอาบน้ำ นวดเบา ๆ ไปให้ทั่วทั้งตัวของสัตว์เลี้ยงและล้างออก เพียงเท่านี้หมัดที่อยู่ตามตัวสัตว์เลี้ยงจะหลุดออกไปแล้ว นอกจากนี้กากกาแฟยังช่วยให้ขนนุ่มมีเงางามอีกด้วย
- ขัดผิว ถ้าจะไม่พูดถึงประโยชน์ข้อนี้ของกากกาแฟก็ถือว่าพลาดสิ่งสำคัญ เพราะในกากกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างกรด Caffeic Acid และ Chlorogenic acid ที่ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนใต้ผิวและชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนั้น กรด ferulic acid ที่ช่วยปกป้องผิวจากเชื้อโรคและแสงแดดได้เป็นอย่างดี หากคุณอยากรู้ว่าการขัดผิวต้องทำอย่างไรบ้างนั้น อ่านต่อได้ที่บทความนี้ วิธีสครับผิว
จะเห็นว่ากากกาแฟเหลือทิ้งมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะการนำมาขัดผิวจะทำให้ผิวของคุณสวยเนียนนุ่มและมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ ซึ่งในการใช้กากกาแฟขัดผิวเมื่อใช้ร่วมกับสารขัดผิวชนิดอื่นจะทำให้ผิวสวยยิ่งขึ้น
สูตรกากกาแฟขัดผิวเนียน
เรารู้อยู่แล้วว่ากากกาแฟมีประโยชน์เหมาะกับการนำมาขัดผิว เพื่อให้ผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใส มีสุขภาพที่แข็งแรง และอาจรักษาผิวแตกลายได้อีกด้วย ซึ่งเรามีสูตรกากกาแฟขัดผิวที่จะทำให้ผิวคุณดีขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ มาฝากดังนี้
- สูตรผิวนุ่ม สูตรนี้ใช้กากกาแฟ 1 ส่วน ผสมน้ำนม 1 ส่วนและน้ำผึ้ง ½ ส่วน ผสมให้เข้ากัน ทาให้ทั่วและปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาที ค่อยล้างออก สูตรนี้สามารถใช้ขัดได้ทั้งผิวหน้าและผิวตัว โดยสูตรนี้จะช่วยการผลัดเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นแลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
- สูตรผิวขาว สูตรนี้ใช้กากกาแฟ 1 ส่วน ผสมน้ำมะขามเปียก 1 ส่วนและผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ขัดให้ทั่วทั้งตัวและปล่อยทิ้งไว้ 10 -15 นาทีจึงทำการล้างออก แต่ถ้าใครรู้สึกแสบผิวก็ให้ล้างออกทันที เพราะสูตรนี้มีมะขามที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ผสมอยู่ แต่ไม่เป็นอันตรายแน่นอน ช่วงแรกขัดอาทิตย์ละครั้งติดต่อกัน 3-4 อาทิตย์ ให้ปรับเป็นอาทิตย์ละ 2 ครั้งจะทำให้ผิวขาวและมีสุขภาพดีขึ้นจริง ๆ
- สูตรลดสิวและการอักเสบ สูตรนี้ใช้กากกาแฟ ½ ส่วน โยเกิร์ต 1 ส่วนและทานาคา ½ ส่วน ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน นำไปขัดให้ทั่วตัวและปล่อยทิ้งไว้ ปล่อยทิ้งไว้ 20-30 นาทีแล้วล้างออก สูตรนี้ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มกลับมามีสุขภาพดีขึ้น ลดการอักเสบของผิวและลดการเกิดผดผื่นคันได้ดี
การขัดด้วยกากกาแฟไม่ควรขัดแรง ๆ แต่ควรขัดเบา ๆ วนเป็นวงกลมให้ทั่วบริเวณ เพื่อให้กากกาแฟกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก เพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิวอย่างได้ผล หากคุณอยากรู้เรื่องการบำรุงผิวให้ดูเนียนใสมากขึ้น คุณอาจสนใจบทความนี้ ปิโตรเลียมเจลลี่: ไอเท็มสำหรับดูแลผิว
วิธีเก็บกากกาแฟ
กากกาแฟที่นำมาใช้หากมีปริมาณมากไม่สามารถใช้ได้ในครั้งเดียวหมด เราสามารถเก็บไว้ใช้ได้โดยที่ไม่เกิดเชื้อรา โดยวิธีการเก็บกากกาแฟมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบคือ
- ตากแดด การตากแดดธรรมชาติเพื่อให้กากกาแฟแห้งสนิท โดยการตากให้นำกระดาษหนังสือพิมพ์รองที่ด้านล่างของภาชนะ ใส่กากกาแฟลงไปให้มีความหนาไม่เกิน 1 นิ้ว นำไปวางกลางแดดหรือพื้นที่ที่มีแดดส่งถึง ระหว่างนั้นให้กันคนกากกาแฟทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้กากกาแฟแห้งทั่วทุกส่วน เมื่อตากจนมั่นใจว่าแห้งแล้วให้เก็บใส่ในภาชนะปิดสนิทและเก็บไว้ในร่ม กากกาแฟตากแห้งสนิทสามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน 1-2 เดือน
- อบแห้ง การทำให้แห้งอีกแบบก็คือการอบแห้ง การอบกากกาแฟใช้อุณหภูมิ 200 °F หรือ 90°C ใส่กากกาแฟในถาดสำหรับอบสูงไม่เกิน 2 นิ้ว ทำการอบจนแห้งและใส่ในภาชนะปิดสนิท กากกาแฟอบแห้งสนิทสามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน 1-2 เดือน
- ซีลสุญญากาศ สำหรับใครที่ไม่สะดวกทำกากกาแฟให้แห้ง คุณสามารถเก็บกากกาแฟแบบแช่เย็นได้ แต่ต้องทำการซีลถุงใส่กาแฟให้เป็นสุญญากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อราเกิดขึ้น ซึ่งกากกาแฟที่ซีลสุญญากาศแช่เย็นสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานถึง 6 เดือนกันเลยทีเดียว
รู้แบบนี้เวลามีกากกาแฟมาเยอะ ๆ ใช้ครั้งเดียวไม่หมด คุณก็สามารถเก็บรักษาไว้ใช้นาน ๆ ได้แล้ว สำหรับการเก็บแบบแห้งแนะนำให้ใส่สารดูดความชื้นในภาชนะเก็บกากกาแฟแห้งด้วย แบบนี้กากกาแฟจะเก็บได้นานขึ้นและไม่มีเชื้อราเกิดขึ้นแน่นอน
ที่มา
https://suzuki-coffee.com/ประโยชน์ของการดื่มกาแฟ/
https://th .theasianparent.com/10-ground-coffee-scrub-recipes