ปิโตรเลียมเจลลี่ ส่วนผสมที่หลายคนอาจจะคุ้นหูคุ้นตากันไม่มากก็น้อย เพราะส่วนผสมเหล่านี้นับว่าเป็นสารยอดนิยมที่วงการผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม การดูแลผิวพรรณ และวงการแพทย์นิยมนำมาใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในครีมกันแดด ลิปบาล์ม เมคอัพรีมูฟเวอร์ ครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยสามารถนำมาใช้เป็นหนึ่งในวิธีสครับผิวที่ถูกต้องได้ เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของส่วนผสมชนิดนี้คือการเคลือบผิว และที่สำคัญมันไม่ละลายน้ำอีกด้วย นอกจากนี้คนส่วนใหญ่มักใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี ปิโตรเลียมเจลลี่ มาบำรุงริมฝีปาก ทำให้ปากดูชุ่มชื้นและไม่แห้งแตก ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายนี่เองจึงทำให้มันได้รับความนิยมมากทั้งในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและทางการแพทย์
ส่วนผสมชนิดนี้สามารถเรียกได้อีกชื่อว่า ปิโตรลาทัม โดยมันมีส่วนผสมของน้ำมันแร่และแว็กซ์ทำให้ออกมาเป็นสารที่มีเนื้อสัมผัสคล้ายกับเจลลี่กึ่งแข็ง ส่วนผสมนี้ได้รับการค้นพบจาก Robert Augustus Chesebrough เมื่อปี 1859 ที่แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยเขาสังเกตว่ามีคนงานใช้น้ำมันที่เหมือนกับเจลลี่ในการรักษาแผลทั่วไปและแผลที่เกิดจากไฟไหม้เพราะเชื่อว่ามันสามารถช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้นได้ เขาจึงได้นำมันไปศึกษาและเก็บไปกลั่นจนออกมาเป็นเจลสีอ่อนที่แทบจะใสจนไม่มีสีเลย
เมื่อเขาได้ทดลองสารนี้จนเป็นที่พอใจแล้วเขาจึงคิดค้นเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเพื่อใช้ในการรักษาบาดแผลโดยเป้าหมายของเขาคือใช้เป็นขี้ผึ้งที่ใช้ทาเฉพาะจุด ซึ่งเมื่อปี 1870 เขาก่อตั้งบริษัทผลิตภัณฑ์ขี้ผึ้งนี้ขึ้นมาโดยใช้ชื่อบริษัทว่าวาสลีนที่เราเห็นอยู่ตามท้องตลาดนั่นเอง แต่ต่อมาเมื่อมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น จากผลิตภัณฑ์ขี้ผึ้งที่ใช้ทาเพื่อรักษาบาดแผลก็กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและผิวหนัง รวมถึงยังมีคุณสมบัติที่ใช้ป้องกันสนิมและเคลือบผิวได้ได้อีกด้วย หากคุณสนใจประโยชน์ด้านการบำรุงผิว คุณอาจสนใจบทความนี้ ประโยชน์ของกากกาแฟ
ปิโตรลาทัม เป็นสารเนื้อไฮโดรคาร์บอนกึ่งแข็งและมีเลขคาร์บอนสูงกว่า 25 ลักษณะของมันจะคล้าย ๆ กับเจลลี่ที่มีสีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีใส จุดหลอมเหลวของมันอยู่ที่ 40–70 องศาเซลเซียสและสามารถติดไฟได้เมื่ออยู่ในสถานะของเหลว แต่ส่วนที่ติดไฟจะเป็นไอระเหยที่ไม่ใช่ตัวของเหลว สารนี้ไม่สามารถละลายได้ในน้ำแต่มันสามารถละลายได้ในตัวทำละลายอินทรีย์
ลักษณะของสารตัวนี้จะเป็นน้ำมันใส ๆ ที่ไม่มีกลิ่น โดยมันมาจากกระบวนการที่กลั่นแยกออกจากน้ำมันดิบ ถึงแม้ว่ากระบวนการของการย่อยสลายสารนี้จะมีราคาสูงแต่เมื่อนำมาผลิตในจำนวนมากแล้วมันสามารถนำไปขายได้ในราคาที่ผู้คนส่วนใหญ่สามารถจับต้องได้ ปัจจุบันนี้มันจึงเป็นสารที่มักจะอยู่ในผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางที่เราใช้กันมากมายอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ การนำปิโตรเลี่ยมเจลลี่ไปใช้ในเครื่องสำอางและทางการแพทย์ต้องมีความปลอดภัยที่สูง คือต้องผ่านกระบวนการกลั่นให้บริสุทธิ์หลายครั้ง แต่ละครั้งต้องมีการตรวจสอบคุณภาพการผลิตอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคจะได้ใช้ปราศจากสารตกค้างจากโลหะหรือสารพิษต่าง ๆ ที่อาจตกค้างได้ ดังนั้น ปิโตรลาทัมที่ผู้บริโภคควรเลือกใช้จึงต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานระดับโลก ที่สำหรับห้ามนำไปรับประทานเป็นอันขาด
คุณสมบัติของสารชนิดนี้ มันมีส่วนช่วยในการกักเก็บและรักษาความชุ่มชื้นของผิว จึงสามารถช่วยสมานอาการบาดเจ็บที่ผิวหนัง แผลไฟไหม้ รวมถึงใช้ระหว่างการผ่าตัดและหลังการผ่าตัดได้อีกด้วย แต่ก่อนที่จะนำสารตัวนี้ไปใช้บนแผลของคุณโปรดตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าผลิตภัณฑ์อยู่ในสภาพที่สะอาด ไม่มีสารปนเปื้อน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรคที่อยู่ภายในที่จะทำให้กระบวนการรักษาช้าลงกว่าเดิมได้
คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของสารตัวนี้คือช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ซึ่งหลังจากอาบน้ำเสร็จคุณสามารถทาปิโตรเลียมเจลลี่หลังอาบน้ำเป็นมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ ทำให้ผิวไม่แห้งแตก เป็นหนึ่งในวิธีรักษาผิวแตกลาย ทั้งนี้ในหน้าหนาวก็สามารถใช้ทาจมูกเพื่อป้องกันผิวแห้งกร้านได้ด้วยเหมือนกัน และปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่มักจะนำไปใช้ทาริมฝีปากแทนลิปมันด้วย นอกจากนี้หากนำไปทาที่ส้นเท้าและสวมถุงเท้าทับมันยังช่วยรักษาอาการส้นเท้าแตกได้อีกด้วยเช่นกัน
อุ้งเท้าของสุนัขบางตัวอาจมีอาการแตกทำให้เกิดความไม่สบายตัวกับสัตว์เลี้ยงของคุณได้ เมื่อสุนัขหลับอยู่คุณสามารถทำความสะอาดอุ้งเท้าโดยการเช็ดให้แห้งและทาปิโตรเลียมเจลลี่ลงไปเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น สาเหตุที่ต้องทำในขณะที่สุนัขหลับก็เพื่อป้องกันการเลียอุ้งเท้า เนื่องจากหากสุนัขบริโภคสารชนิดนี้เข้าไปเป็นจำนวนมากอาจทำให้ท้องเกิดความปั่นป่วนได้
ปิโตรเลียมเจลลี่ที่ได้รับมาตรฐานความผลิตและมีความปลอดภัยสู. สามารถนำไปใช้กับทารกเพื่อลดการเกิดผื่นผ้าอ้อมได้ โดยคุณสามารถเช็ดผิวทารกให้แห้งและจากนั้นทาปิโตรเลียมเจลลี่ลงไปเพื่อสร้างเกราะป้องกันในการปกป้องผิวจากการสัมผัสกับความชื้นเป็นประจำ
ประสิทธิภาพอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจของสารตัวนี้คือมันสามารถช่วยลบเครื่องสำอางรวมถึงเป็นอายรีมูฟเวอร์ได้ เนื่องจากมันมีความปลอดภัยจนถึงขั้นที่สามารถใช้กับดวงตาได้ โดยคุณสามารถใช้สำลีแผ่นชุบปิโตรลาทัม หลับตา และแปะไว้บนดวงตา จากนั้นเช็ดเบา ๆ โดยไม่ต้องกดไปแรง ๆ เพื่อลดการเกิดรอยตีนกา
แสงแดด น้ำในสระน้ำ รวมถึงน้ำทะเล สามารถทำให้ผมแห้งได้ การใช้ปิโตรเลียมเจลลี่สามารถช่วยลดผมแตกปลายและช่วยเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมได้โดยการถูที่มือเพียงเล็กน้อยจากนั้นนำไปทาที่ปลายผม
หากคุณชื่นชอบการย้อมผมด้วยตัวเอง การทาปิโตรเลียมเจลลี่ตามกรอบหน้าหรือไรผมสามารถป้องกันไม่ให้ยาย้อมผมเปื้อนผิวหนังได้ นอกจากนี้การทาบริเวณใกล้ ๆ เล็บบังสามารถช่วยให้รอบเล็บไม่เปื้อนสีเมื่อทาเล็บได้อีกด้วย
การใช้ ปิโตรลาทัมทาเฉพาะจุดและฉีดน้ำหอมลงไปที่จุดนั้น จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนานยิ่งขึ้น
หากประตูของคุณเปิดได้ไม่ค่อยดีเพราะติด ๆ ขัด ๆ การทาปิโตรเลียมเจลลี่แทนน้ำมันหล่อลื่นลงไปที่บานพับแล้วแกว่งประตูสองสามครั้ง สามารถช่วยให้ประตูกลับมาเปิดได้ดีเหมือนเดิมได้ หรือหากแหวนของคุณติดอยู่ที่นิ้วมือการทาปิโตรเลียมเจลลี่ลงไปในบริเวณนั้นสามารถช่วยให้แหวนหลุดออกได้ง่ายเช่นเดียวกัน
อาการกลากเกลื้อนบนผิวหนังเป็นภาวะเรื้อรังที่ทำให้เกิดการระคายเคือง อาการคัน และตกสะเก็ดได้ โดยเมื่อปี 2017 มีการศึกษาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าปิโตรเลียมเจลลี่อาจป้องกันการระบาดของโรคกลากเกลื้อนได้ ที่สำคัญมันยังมีราคาที่ย่อมเยากว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติเหมือนกันอีกด้วย
หากคุณพบเจอตัวเห่าที่โตเต็มวัยแล้ว การใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ถือว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านอีกอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยกำจัดเหาได้ แต่มีการวิจัยว่าสารชนิดนี้สามารถกำจัดได้เพียงตัวเห่าเท่านั้น ไม่สามารถกำจัดส่วนของไข่เห่าได้ แม้ว่ามันจะไม่ใช่วิธีที่ดี่ที่สุดในการกำจัดเหาแต่มันถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ปลอดภัยและสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของเหาเพิ่มขึ้นได้
บริเวณที่ร่างกายของคุณมักเกิดการเสียดสีบ่อยจนเกิดเป็นแผลพุพองเช่นการวิ่ง การทาปิโตรเลียมเจลลี่ระหว่างขาและส้นเท้าอาจช่วยลดอาการเสียดสีจนเกิดเป็นแผลพุพองได้ หรือหากคุณมีตุ่มที่พองขึ้นมาแล้วการทาสารชนิดนี้เข้าไปบนแผลก็สามารถช่วยรักษาได้เช่นเดียวกัน
ผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารการใช้ปิโตรเลียมเจลลี่สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีได้ โดยวิธีใช้คือนำไปทาในจุดที่เกิดอาการเพื่อปกป้องชั้นผิวที่บอบบางและทำให้คุณอุจจาระได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยลดอาการบาดเจ็บและคันได้
ผิวรอบดวงตาของคุณบางมาก ซึ่งหมายความว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย แต่ชั้นของปิโตรลาทัม ปลอดภัยสำหรับรอบดวงตาหากทาก่อนนอนบนเปลือกตามันจะช่วยให้เปลือกตาของคุณมีความชุ่มชื้น หรือจะใช้ลบเครื่องสำอางบนดวงตาก็ได้ แต่ควรระวังไม่ให้เข้าตา
ทารกที่มีอายุ 3 สัปดาห์ขึ้นไปสามารถใช้ปิโตรเลียมเจลลี่เพื่อรักษาอาการคันของทารกแรกเกิดหรือโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้
แม้ว่าปิโตรเลียมเจลลี่จะมีราคาที่ไม่สูงมากและมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้มากมาย แต่มันก็มีข้อพึงระวังดังต่อไปนี้
หากคุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีปิโตรเลียมเจลลี่ที่ไม่ได้มาตรฐาน มันอาจก่อให้เกิดภาวะที่รุนแรงต่อร่างกายได้ เนื่องจากทาง Environmental Working Group (EWG) องค์กรที่ดูแลเกี่ยวกับสารเคมีที่อยู่ในเครื่องสำอาง อาหาร และสิ่งแวดล้อม ได้เคยทำการศึกษาวิจัยและระบุไว้ว่าสารชนิดนี้สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้หากสะสมไว้ในร่างกายมากเกินไป และยังส่งผลในด้านระบบฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ การรับกลิ่น ตับ ระบบภูมิคุ้มกัน ทางเดินหายใจ รวมถึงส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
ลักษณะของสารชนิดนี้จะมีความที่ค่อนข้างเหนียว หากทำความสะอาดไม่ดีอาจก่อให้เกิดการอุดตันและส่งผลให้เป็นสิวและผื่นได้ทั้งบนใบหน้าและผิวกาย รวมถึงสิวที่หลังด้วย
การใช้ปิโตรเลียมเจลลี่กับผิวกายเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น หากใช้ในระยะยาวอาจเกิดผลเสียที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพไวกว่าเดิมได้ เนื่องจากเมื่อทาสารชนิดนี้บนร่างกายแล้ว ร่างกายก็จะไม่มีอากาศถ่ายเทไปยังชั้นผิวทำให้รบกวนกระบวนทำงานตามธรรมชาติของผิว เนื่องจากร่างกายคิดว่าผิวได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอแล้วจึงชะลอการผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิว ส่งผลให้กระบวนการผลิตน้ำมันในร่างกายนั้นเริ่มทำงานได้ช้าลง ซึ่งหากนานเกิดไปก็อาจจะทำให้ผิวเสื่อมสภาพและมีความแห้งกร้านได้ในที่สุด
ด้วยความที่ปิโตรเลียมเจลลี่เป็นสารที่ไม่ละลายน้ำ คุณสมบัติของมันจึงเหมือนกับฟิล์มที่ทำหน้าที่ในการเคลือบผิว ทำให้ผิวไม่มีอากาศหายใจ หากใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารชนิดนี้อาจจะทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายหากล้างทำความสะอาดไม่ดี นอกจากนี้ตัวสารยังมีคุณสมบัติที่มีความชื้นส่งผลให้เป็นแหล่งกำเนิดของเชื้อราได้ โดยมีงานวิจัยเปิดเผยว่าทารกที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงการใช้ปิโตรเลียมเจลลี่อาจส่งผลให้เชื้อราเกิดการเจริญเติบโตเข้าไปถึงอวัยวะภายในร่างกายได้
ไม่ควรใช้แทนสารหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ เพราะมันอาจทำให้ถุงยางแตกได้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อผู้หญิงในการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นจากสารชนิดนี้
ที่ผ่านมามีข้อถกเถียงกันเป็นอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ว่าปิโตรเลียมเจลลี่ที่ผ่านการกลั่นและไม่ผ่านการกลั่นนั่น มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง และมีข้อสรุปได้ว่าปิโตรเลียมเจลลี่เกรดบริสุทธิ์ที่สุดจะเป็นเกรดที่เรียกว่า USP ซึ่งเป็นเกรดที่ได้มาตรฐานเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดย United States Pharmacopeia ซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบความสม่ำเสมอและความบริสุทธิ์ในผลิตภัณฑ์
หากสารชนิดนี้ไม่ผ่านการกลั่นที่ได้คุณภาพอาจเกิดเป็นสารก่อมะเร็งได้ทั้งในยา อาหาร และในเครื่องสำอางต่าง ๆ ซึ่งปัญหาที่พบเจอก็คือไม่ใช่ว่าผู้ผลิตสินค้าทุกรายจะเลือกใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ที่ผ่านการกลั่นแบบได้มาตรฐานแล้ว จึงทำให้มีความเป็นไปได้ที่สาร PAH จะยังคงมีอยู่ ดังนั้นผู้บริโภคควรมองหา USP White Petroleum Jelly (รู้จักกันในชื่อ BP ในอังกฤษและ Ph. Eur ในยุโรป) ซึ่งจะระบุระดับและสถานที่ที่กลั่น ไว้
นอกจากนี้ BP หรือ Ph. Eur ยังทำให้ผู้บริโภคสามารถไว้วางใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นไปตามมาตรฐานความบริสุทธิ์ที่ปลอดภัยต่อการใช้งานของผู้บริโภค ส่วนใหญ่แบรนด์ที่เชื่อถือได้และผู้คนมักจะเลือกซื้อกันก็จะเป็น Vaseline และ Aquaphor ซึ่ง 2 ตัวนี้คณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม (EWG) ยังระบุไว้อีกว่าเป็นปิโตรเลียมเจลลี่ที่ถือว่ามีอันตรายต่ำมากที่สุด
ปิโตรเลียมเจลลี่ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่มีคุณประโยชน์ในการบำรุงและรักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามร่างกายได้มากมาย แต่มันก็ถือว่าเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลผิว เส้นผม หรือส่วนต่าง ๆ ตามร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่ยารักษาโรค หากคุณนำไปใช้เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ แล้วไม่ดีขึ้นรวมถึงมีอาการที่รุนแรงเกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและหยุดใช้ทันที ที่สำคัญควรเลือกใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพการกลั่นได้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและจะได้ไม่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายตามมาได้ในภายหลัง
https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/petroleum-jelly
https://www.pobpad.com/ปิโตรเลียมเจลลี่-ตัวช่ว
https://natureprof.com/29-ปิโตรเลียม-เจลลี่-เติมความชุ่มชื้นหรือทำร้ายผิว
https://www.webmd.com/beauty/ss/slideshow-embarrassing-beauty-questions