ผลข้างเคียงคอลลาเจน มีอะไรบ้าง ใครบ้างที่สามารถกินได้ ? แหล่งคอลลาเจนจากธรรมชาติและอาหารเสริมคอลลาเจนได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนรู้จักกันในปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน หรือเดินไปห้างสรรพสินค้าที่ใดก็ตาม ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างคอลลาเจนแบรนด์ดีที่ควรซื้อจะต้องปรากฏให้คุณเห็นกันอยู่ทุกที่ และถ้าถามว่าคอลลาเจนจะเป็นต้องรับประทานหรือไม่นั้น อาจจะต้องตอบให้ชัดกันไว้ในที่นี้ว่าจำเป็น ถึงแม้ว่าร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่ออายุเข้าวัย 25 ปี คอลลาเจนใต้ชั้นผิวจะเสื่อมถอยลง 1.5% ต่อปี และยิ่งหนักมากขึ้นในช่วง 30 ปี ที่ร่างกายจะค่อย ๆ ลดปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวไปมากถึง 20-30% กันเลยทีเดียว
เป็นเหตุผลที่ทำไมการรับประทานคอลลาเจนจึงเป็นสิ่งที่คุณควรเริ่มมองเป็นลู่ทางในการบำรุงร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากที่คุณควรรู้ก่อนรับประทานคอลลาเจนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรับประทานมากที่สุด รวมถึงผลข้างเคียง คอลลาเจน ซึ่งเนื้อหาเหล่านั้นได้ถูกรวบรวมไว้ในบทความชิ้นนี้แล้ว
ก่อนอื่นที่จะลงลึกถึงเนื้อหาใดก็ตามเกี่ยวกับคอลลาเจน อยากจะพาทุกคนไปรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียง คอลลาเจนกันเสียก่อน เพราะการรับประทานคอลลาเจนประเภทอาหารเสริมนั้น ไม่ได้มีแต่ส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับคอลลาเจนเพียงเท่านั้น แต่ละแบรนด์ต่างก็พยายามใส่สารสกัด และสารเคมีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของคอลลาเจน และยืดอายุในการใช้งาน จะมีผลข้างเคียง คอลลาเจนอะไรบ้างที่คุณควรรู้ก่อนรับประทาน ไปติดตามกันได้เลย ดังนี้
1. รับประทานมาก ไม่ได้ส่งผลดี
โดยปกติแล้วปริมาณคอลลาเจนที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้นั้นจะไม่เกิน 10,000 มล. ต่อวัน นั้นหมายความว่าหากคุณรับประทาน หรือดื่มคอลลาเจนจำนวนที่มากกว่าที่ร่างกายสามารถรับไว้ ส่วนที่เหลือจะถูกสะสมในร่างกาย และอาจก่อให้เกิดเป็นสารตกค้างที่ทำให้เกิดโรคได้อีกด้วย
2. ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรต้องระวัง
ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรับประทานคอลลาเจนได้ เนื่องจากมีผู้ป่วยโรคที่ห้าม กินคอลลาเจน หรืออาหารเสริมประเภทอื่น ๆ เนื่องจากอาจเป็นการรบกวนร่างกายในสภาพที่ยังไม่แข็งแรงดี หรืออาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน รวมไปถึงขั้นตอนการรักษาที่อาจไม่เป็นตามที่แพทย์คาดหวังไว้ หากคุณเป็นโรคประจำตัวดังนี้ ไม่ควรรับประทานคอลลาเจนประเภทอาหารเสริมเด็ดขาด
นี่เป็นเพียงบางส่วนของโรคที่ไม่แนะนำให้รับประทานคอลลาเจน หรืออาหารเสริมใด ๆ เพิ่มเติม หากต้องการบำรุง หรือรับประทานคอลลาเจน ควรปรึกษากับทางทีมแพทย์ก่อน ไม่งั้นอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย หรือทำให้การรักษาของทางแพทย์ติดขัด ล่าช้ากว่าที่คาดการณ์กันไว้ได้
3. ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทะเลไม่ควรรับประทาน
นอกจากผู้ที่มีโรคประจำตัวแล้วควรหลีกเลี่ยงการรับประทานคอลลาเจน กลุ่มคนที่มีอาการแพ้อาหารทะเลเองก็ไม่ควรที่จะรับประทานคอลลาเจนด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากคอลลาเจนส่วนมากแล้วจะมีส่วนผสมของปลาทะเลน้ำลึก หรือเกล็ดปลา เนื่องจากเป็นแหล่งอุดมไปด้วยคอลลาเจน
ทำให้ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนส่วนมากจะพบส่วนประกอบของปลา และสัตว์ทะเลอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผู้ที่แพ้อาหารทะเลอาจจะไม่เหมาะกับการรับประทานคอลลาเจน หากคุณต้องการทานคอลลาเจนจริง ๆ ควรจะปรึกษากับแพทย์ก่อน เพื่อให้ปลอดภัยต่อชีวิตของคุณเอง
สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าในคอลลาเจนนั้นมีส่วนผสมของปลาไหม และเผลอรับประทานเข้าไป ให้ลองสังเกตอาการของตัวเองในเบื้องต้นก่อนพบแพทย์ว่ามีอาการแก้หรือไม่ โดยอาการแพ้เบื้องต้นจะมีอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียน หากอาการแพ้รุนแรงมากจะทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอก และหายใจไม่ออกได้เลยทีเดียว ใครที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองสามารถรับประทานคอลลาเจนได้ไหม การเลือกปรึกษาแพทย์ก่อนจะเป็นการดีที่สุด หรือการเลือกรับประทานผัก และผลไม้ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อคุณไม่แพ้กัน
4. การรับประทานคอลลาเจนจะช่วยลดริ้วรอย
จริงอยู่ที่ว่าใต้ชั้นผิวหนังของมนุษย์นั้นมีคอลลาเจนมากถึง 90% และการรับประทานคอลลาเจนเข้าไปเป็นการพยายามรักษา และเพิ่มอัตราการผลิตของคอลลาเจนให้ยังสามารถช่วยสร้างความสมดุลของผิวได้อยู่ แต่ในแง่ของผลลัพธ์จริง ๆ ของการรับประทานคอลลาเจนแต่เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ได้มีการรับรองว่าช่วยในเรื่องของการลดริ้วรอยได้แต่อย่างใด คุณยังจำเป็นต้องทาครีมเพื่อบำรุง, ออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพ, ดื่มน้ำให้มากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อีกทั้งยังต้องพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้ร่างกายสามารถซ่อมแซม และฟื้นฟูตัวเองได้เป็นอย่างด
5. คอลลาเจนช่วยลดอาการข้อเข่าเสื่อม
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สามารถพบได้มากตามเส้นเอ็น และหลอดเลือด การที่คอลลาเจนค่อย ๆ เสื่อมสภาพ หรือมีอัตราการผลิตต่ำลงทำให้ข้อเข่า หรือข้อกระดูกต่าง ๆ ของร่างกายมีปัญหาในการเคลื่อนไหว แต่การรักษา หรือเยียวยาอาการข้อเข่าอักเสบที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่เริ่มมีอาการชราภาพ ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานคอลลาเจนแต่เพียงอย่างเดียว คุณควรเข้ารับการกายภาพบำบัด หรือให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอาการ คอลลาเจนเป็นเพียงส่วนเติมเต็มที่จะทำให้อาการของคุณนั้นดีขึ้นเพียงเท่านั้น
นี่เป็นเนื้อหาบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียง คอลลาเจนก่อนที่คุณจะตัดสินใจรับประทาน จริงอยู่ที่ว่าการรับประทานคอลลาเจนเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ และยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ดูสุขภาพดี แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่คุณรู้เกี่ยวกับสารสกัดคอลลาเจนที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่วางขายอยู่ในท้องตลาด
ในเนื้อหาก่อนหน้าได้มีการพูดถึงประเด็นคอลลาเจน ประโยชน์ โทษไปบ้างแล้วเล็กน้อย ในเนื้อหาส่วนนี้จะเป็นการขยายภาพ และทำให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจในการรับประทานคอลลาเจนได้เข้าใจประโยชน์ที่จะได้รับจากคอลลาเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งคอลลาเจนเหมาะกับใครและจะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันต่อได้เลย ดังนี้
คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญใต้ชั้นผิว เมื่อผิวขาดคอลลาเจนไปทำให้พื้นที่ดังกล่าวเกิดเป็นริ้วรอยแห่งวัยนั้นเอง การได้คอลลาเจนมาเติมเต็ม และเสริมเป็นรากฐานที่แน่นหนาใต้ชั้นผิว ทำให้ริ้วรอยร่องที่ไม่ลึกมากสามารถที่จะกลับมาเป็นผิวที่ดูอิ่มน้ำ และดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติหลักของคอลลาเจนกันเลยก็ว่าได้กับเรื่องการเสริมความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิว ใครที่มีปัญหาผิวหยาบแห้งกร้านมีโอกาสสูงมากทีเดียวที่อาจเกิดจากภาวะผิวขาดคอลลาเจน การได้รับประทานอาหารเสริม หรือผักผลไม้ที่ดี และมีประโยชน์จะช่วยให้ผิวของคุณสามารถกลับมาชุ่มชื้นได้อีกครั้ง
ในกรณีที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงของข้อต่อ และกระดูกการได้รับประทานคอลลาเจนจัดได้ว่าเหมาะสม และเป็นตัวเลือกที่ดูดีเลยทีเดียว เพราะคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่เคยช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในบริเวณข้อต่อ เมื่อร่างกายสูงวัยขึ้น คอลลาเจนในพื้นที่ดังกล่าวจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพ และอัตราการผลิตคอลลาเจนใหม่ก็น้อยลง การได้บำรุงร่างกายด้วยคอลลาเจนจึงเป็นตัวเลือกที่ไม่อยากให้คุณมองข้ามไป
เชื่อว่าเรื่องผมหลุดร่วงง่ายจะต้องเป็นปัญหาของหลาย ๆ คน หนึ่งในสาเหตุที่อาจเป็นตัวการในเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นกับสภาพร่างกายที่เริ่มขาดคอลลาเจนตามสภาพอายุของร่างกาย เนื่องจากคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่คอยเสริมรากผมให้มีความแข็งแรง และยังมีส่วนช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง ไม่ขาดง่าย การที่คอลลาเจนต่ำลงทำให้ปัญหาผมหลุดร่วงง่ายเกิดขึ้น
ปัญหาเล็บเปราะบาง หักง่าย มีความเป็นไปได้ที่คอลลาเจนจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะสภาวะขาดคอลลาเจนจะแสดงสัญญาณผ่านบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิว, ผม หรือเล็บ ถ้าคุณเองก็กำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องเล็บมีปัญหา การได้รับประทานคอลลาเจนอาจจะช่วยกู้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเล็บได้
จากเนื้อหาที่ได้กล่าวไปทั้งหมด คาดว่าผู้อ่านจะได้เห็นประโยชน์ และข้อจำกัดของคอลลาเจนกันขึ้นมาบ้างแล้ว ถ้ามีคำถามที่ว่า ใครควรกินคอลลาเจน แน่นอนว่านี่อาจเป็นถามสุดคลาสสิก แต่เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจในการเลือกรับประทานคอลลาเจนได้ง่ายขึ้น จะสรุปเป็นรายลิสต์ว่ามีใครบ้างที่ควรเริ่มต้นรับประทานคอลลาเจน
เหตุผลที่ทำไมผู้ที่มีอายุเกินกว่า 15 ถึงสามารถรับประทานคอลลาเจนได้ เนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่เด็ก หรือวัยรุ่นตอนต้นจะต้องรับประทานคอลลาเจนเพิ่มเติมกัน เนื่องจากร่างกายในช่วงอายุก่อนหน้านี้สามารถผลิต และมีคอลลาเจนที่แข็งแรงกว่าช่วงวัยอื่น แต่ถ้าอยากบำรุงร่างกาย และผิวพรรณจริง ๆ อายุ 15 เป็นต้นไปจะดีกว่ากับทั้งเรื่องของค่าใช้จ่าย และอายุผิวที่กำลังพอเหมาะ
สุดท้ายเพื่อให้ผู้ที่ตัดสินใจเลือกรับประทานคอลลาเจน สามารถได้รับประโยชน์สูงสุดจากการรับประทานคอลลาเจนง่าย ๆ เพียงแค่ ดื่มน้ำตามหลังจากรับประทานคอลลาเจนเข้าไป เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปผ่านบทความนี้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้สูงสุด 10,000 มล. ต่อวัน แต่การที่คุณรับประทานคอลลาเจนเข้าไป ไม่ได้หมายความว่าร่างกายจะดูดซึมได้หมด และครบตามจำนวน เพราะจะมีปัจจัยทั้งภายใน และภายนอกร่างกายที่ทำให้ขั้นตอนกระบวนการดูดซึมไม่สามารถทำได้เต็มที่
การได้ดื่มน้ำเข้าไปจะช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้ง่าย และดูดซึมได้ดีกว่าเดิม เพื่อให้ผู้รับประทานคอลลาเจนได้ประโยชน์สูงสุด และผลลัพธ์ในเรื่องที่คาดหวังนี่เป็นบทความที่ได้พาคุณรู้จักกับอีกมุมมองหนึ่งของคอลลาเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลข้างเคียง คอลลาเจน, โรคที่ห้าม กินคอลลาเจน, คอลลาเจน ประโยชน์ โทษ หรือแม้แต่ใครควรกินคอลลาเจน หากให้สรุปอีกครั้ง ทุกคนสามารถรับประทานคอลลาเจนได้ โดยต้องมีอายุมากกว่า 15 ปี และต้องรับประทานคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอต่อวัน ไม่มากเกินไป เพราะอาจจะตกค้างในร่างกายเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน
ผลข้างเคียงของคอลลาเจนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่มักเป็นผลข้างเคียงที่เล็กน้อยและไม่ร้ายแรง บางครั้งอาจมีอาการคลื่นไส้หรือเรอ ในกรณีที่คุณมีประวัติการแพ้และไม่ทนต่อโปรตีนอาจเกิดการระคายเคืองเล็กน้อยได้ แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะพบได้น้อยและผ่านไปเองโดยไม่มีปัญหาเพิ่มเติม แต่สิ่งที่หลายคนอาจสนใจคือเมื่อไหร่ที่ควรเริ่มต้นกินคอลลาเจนและแหล่งคอลลาเจนจากธรรมชาติที่ไหน? โดยการเริ่มต้นกินคอลลาเจนจะอยู่ที่ความต้องการและเป้าหมายของแต่ละบุคคล ถ้าคุณมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพของผิวหนัง เส้นเอ็น หรือการเจริญเติบโตของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย คอลลาเจนอาจช่วยให้คุณมีผลการดูแลที่ดีขึ้น อีกทั้งคุณยังสามารถเพิ่มคอลลาเจนในร่างกายได้จากแหล่งที่มาธรรมชาติอีกด้วย หากคุณใจในรายละเอียดดังกล่าว มาดูข้อมูลต่อที่หัวข้อถัดไปได้เลย
การเลือกทานคอลลาเจนควรมีความระมัดระวังเพื่อปรับตามอายุของผู้ทาน ซึ่งความต้องการของคอลลาเจนจะแตกต่างกันไปตามอายุและสภาพร่างกาย สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ไม่แนะนำให้ทานคอลลาเจน แต่ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ควรทานคอลลาเจนเพื่อบำรุงสุขภาพและส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนภายในร่างกาย เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้นอัตราการสร้างคอลลาเจนภายใต้ผิวหนังจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากผิวหนังเริ่มแห้ง เหี่ยว และร่างกายก็จะสูญเสียความแข็งแรงไป จึงแนะนำให้รับประทานคอลลาเจนเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
เรียกได้ว่าคอลลาเจนเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปที่ต้องการกระตุ้นสภาพเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้ดีขึ้นและเสริมสร้างความสามารถของร่างกาย อย่างไรก็ตาม บางคนอาจตั้งข้อสงสัยว่าคอลลาเจนเหมาะกับใคร ทุกคนสามารถรับประทานได้หมดไหม? ซึ่งการทานคอลลาเจนอาจไม่เหมาะสมสำหรับบางกลุ่มผู้คน เช่น ผู้ที่มีโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง ผู้ที่มีปัญหาไทรอยด์ ฯลฯ
จากข้อมูลยังระบุอีกว่า หากคุณเป็นกลุ่มผู้ที่กำลังให้นมลูกหรือมีโรคเฉพาะเจาะจง เช่น โรคเบาหวาน ความเหมาะสมในการทานคอลลาเจนจะขึ้นอยู่กับสภาพสุขภาพปัจจุบันและแนวทางการรักษาที่คุณกำลังปฏิบัติอยู่ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการทานเพื่อความเหมาะสมในการรับประทานคอลลาเจน
วันนี้แอดมินก็ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลไม้และผักที่มีปริมาณคอลลาเจนสูงในตัวที่ไม่เพียงแต่มีคอลลาเจนเยอะเท่านั้น แต่ยังมีสารอื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวของคุณได้อีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการเสริมแหล่งคอลลาเจนจากธรรมชาติที่สามารถหารับประทานได้ง่าย ๆ มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง
เพียงเท่านี้ ก็เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้แล้วว่าปัญหาที่ผู้คนสนใจและอยากทราบเกี่ยวกับคอลลาเจนนั้น คือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคหรือประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคอลลาเจนเข้ามาอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อร่างกายได้ในบางกลุ่ม แม้ว่าคอลลาเจนจะถือว่าเป็นสารที่ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ แต่ก็ควรให้คำนึงถึงบางปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นได้ตามต้องการของแต่ละบุคคล
อ้างอิง:
คอลลาเจน ประโยชน์ ที่มากกว่าแค่อาหารเสริม เติมความสดใสให้ทุกวัย. https://www.true-shopping.com/blog/collagen-benefits-who-should-take
ไขข้อข้องใจ คอลลาเจน เหมาะกับใครบ้าง | RS Mall. https://www.rsmall.com/blog/what_is_collagen_good_for