ริ้วรอย ก่อนวัย ป้องกันอย่างไร ให้มาช้ากว่าอายุจริง
ริ้วรอย ก่อนวัย ป้องกันอย่างไร เนื่องจากริ้วรอยบนใบหน้าเป็นสิ่งที่ไม่อาจปกปิดได้ หลายคนจึงพยายามหาวิธีลดเลือนริ้วรอยดังกล่าว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันมีส่วนทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าเร็วกว่าวัย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ไม่ได้ออกกำลังกายพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนมีส่วนสำคัญที่ทำให้ดูแก่ก่อนวัยทั้งสิ้น ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว สาวๆ จึงควรปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และหันมาดูแลเอาใจใส่ตัวเอง ดังนี้
1.กินอาหารที่มีประโยชน์
- คนส่วนใหญ่รู้ดีว่าการเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีแล้ว ยังช่วยทำให้อายุยืน ผิวพรรณกระจ่างแจ่มใส รวมทั้งดูเด็กกว่าวัยอีกด้วย แต่กลับทำไม่ได้อย่างที่คิด เพราะมีสิ่งล่อใจมากมาย ดังนั้น หากคุณต้องการป้องกันไม่ให้ผิวพรรณมีริ้วรอยแก่กว่าวัย คุณควรเริ่มหันมาทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอย่างผักใบเขียวและผลไม้ที่มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างกล้วย อะโวคาโด เบอร์รี่ต่าง ๆ รวมทั้งลดปริมาณเนื้อสัตว์และไขมันลด เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยและชะลอความเสื่อมสภาพของผิวหนังได้แล้ว
2.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อบำรุงสุขภาพผิวจากภายในแล้ว สาวๆ รู้หรือไม่ว่าคุณควรดื่มน้ำให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอต่อวันด้วยเช่นเดียวกัน โดยควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้วหรือดื่มวันละ 2 ลิตร เพราะน้ำจะช่วยเติมเต็มความอิ่มเอิบให้เซลล์ผิวจากภายใน ส่งผลให้ผิวหนังชุ่มชื้น เปล่งประกายความสดใสอ่อนเยาว์คืนกลับมาสู่ภายนอก แถมยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ต้นเหตุของการเกิดสิวและทำให้ผิวหมองคล้ำ รับรองได้ว่าเมื่อหมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอแล้ว ผิวจะสวยอ่อนเยาว์ ห่างไกลจากริ้วรอยก่อนวัยแน่นอน
3.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- หากสังเกตดูนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีผิวพรรณที่สดชื่นและเด็กกว่าวัยทั้งสิ้น ที่เป็นเช่นนั้น เพราะการออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตที่ช่วยสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการขับสารพิษออกจากร่างกายผ่านทางเม็ดเหงื่อ ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง ปราศจากสารพิษ และปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ จึงทำให้คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีสุขภาพผิวที่ดี ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรนั่นเอง
4.รู้จักจัดการความเครียด
- ความเครียดเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน แต่สิ่งที่ช่วยลดผลกระทบจากความเครียด คือ การรู้วิธีจัดการกับความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากความเครียดนั้นส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมองซึ่งทำหน้าที่สั่งการส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อระบบประสาทถูกกดดันย่อมทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มีความเครียดสั่งสมมากจึงมีผิวที่หม่นหมอง ไม่ผ่องใส การจัดการความเครียดนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำสมาธิ หรือการดูหนังฟังเพลงก็สามารถช่วยผ่อนคลายความกังวลลงได้ เนื่องจากความเครียดไม่ได้ทำให้แก่เร็วอย่างเดียวเท่านั้น หากยังส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคร้ายต่าง ๆ อีกด้วย
5.กินอาหารเสริมที่มีคุณภาพ
- การกินอาหารเสริมบางชนิดก็สามารถช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วิตามินซี เกรฟซีดหรือผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากสมุนไพรหรือพืชที่มีสารอาหารช่วยชะลอวัย สารต้านอนุมูลอิสระ หรือวิตามินเป็นจำนวนมาก อาทิ อะโวคาโด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่าง ๆ ถั่งเช่าหิมาลัย รวมไปถึงผักใบเขียวที่มีสรรพคุณซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ บำรุงระบบไหลเวียนโลหิต และปลาทะเลน้ำลึกที่มีโอเมก้า3 ช่วยบำรุงการทำงานของระบบประสาทและสมอง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เช่นเดียวกับชะลอวัย ให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูดีสมวัยนั่นเอง
6.ใช้สกินแคร์ช่วยต้านริ้วรอย
- คนเราเมื่ออายุเข้าสู่วัยเลข 3 คอลลาเจนและอิลาสตินในใต้ชั้นผิวก็ย่อมลดลง ทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้ง่าย ดังนั้น สาวๆ จึงควรเลือกใช้สกินแคร์หรือครีมบำรุงผิวที่มีส่วนช่วยรับมือกับริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นอายครีมลดริ้วรอยหรือตัวที่ช่วยป้องกัน ชะลอหรือลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยก็เหมาะสมทั้งสิ้น โดยควรเลือกให้เหมาะสมกับช่วงอายุของคุณ เนื่องจากครีมดังกล่าวจะมีส่วนผสมที่จะช่วยต่อกรกับริ้วรอยและความเสื่อมสภาพของผิว ทำให้ผิวกลับมาเด้งฟู และอ่อนเยาว์สดใสดังเดิมอีกครั้ง
7.ทาครีมกันแดดทุกวัน
- เพราะแสงแดดเป็นศัตรูตัวฉกาจที่จะทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย แถมยังนำมาซึ่งความหมองคล้ำอีกด้วย ดังนั้น จึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอย และจุดด่างดำ โดยควรเลือก SPF 15-30 สำหรับสาวออฟฟิศหรือคนที่ทำงานในที่ร่ม แต่หากใครมักจะต้องออกแดดบ่อยๆ แนะนำให้เลือกใช้ค่า SPF 50 PA+++ ด้วยจะดีที่สุด และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อการปกป้องแสงแดดที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
8.สครับผิวเป็นประจำ
- การสครับหรือการขัดผิว ก็จัดเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัยได้ เนื่องจากสภาพผิวของคนเราจะมีการผลัดเซลล์ทุก 28 วัน แต่เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามกลไกธรรมชาติจะลดประสิทธิภาพลง ดังนั้น เราจึงควรหมั่นสครับผิวหน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ด้วยสครับที่มีความอ่อนโยนต่อผิว อาจจะใช้น้ำตาลทราย หรือเกลือมาผสมกับโยเกิร์ตแล้วขัดก็ได้ หรือจะใช้ผลิตภัณฑ์สครับแบบสำเร็จรูปที่มีวางขายตามท้องตลาดอย่าง การผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วยวิตามินซี ก็ได้เช่นกัน เพราะเมื่อผิวหนังได้รับการสครับเซลล์เก่าออกไป ก็จะทำให้เกิดกระบวนการผลิตเซลล์ผิวใหม่ที่สดใสกว่าขึ้นมาแทนที่ แต่หากปล่อยผิวทิ้งไว้ไม่ยอมสครับเลย เซลล์ผิวเก่าที่สะสมบนผิวชั้นนอกก็จะก่อให้เกิดผิวหมองคล้ำ เป็นสิวและริ้วรอยง่าย อันเกิดจากการที่สกินแคร์ที่ทาบำรุง ไม่สามารถซึมซาบลงสู่ผิวชั้นลึกได้ดีนั่นเอง แต่หากสครับผิวเป็นประจำ สกินแคร์ก็จะสามารถซึมเข้าไปบำรุงได้อย่างล้ำลึก ผิวก็จะสวยอ่อนเยาว์สดใส อย่างไร้ที่ติ
9.มาส์กหน้าทุกสัปดาห์
- นอกจากการสครับผิวหน้าแล้ว สาวๆ อย่าลืมนะคะว่าอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส และอ่อนเยาว์กว่าวัยได้ก็คือ การบำรุงอย่างล้ำลึกเร่งด่วนด้วยการมาส์กหน้านั่นเอง จะใช้สูตรมาส์กจากธรรมชาติโดยใช้วัตถุดิบหาง่ายรอบตัวอย่าง มะขามเปียก น้ำมะนาว น้ำผึ้ง ขมิ้น โยเกิร์ตและนม เหล่านี้มาเป็นส่วนผสมของมาส์กก็ได้ หรือจะใช้มาส์กชีทที่เป็นแผ่นสำเร็จรูปพร้อมกับใช้กัวซานวดหน้าไปด้วยก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันก็มีวางจำหน่ายให้เลือกค่อนข้างมาก หากหมั่นมาส์กหน้าทุกสัปดาห์ๆ ละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่ผิวเจอมลภาวะ อดนอนหรือเจอแสงแดดบ่อยๆจนรู้สึกได้ถึงความโทรมรับรองค่ะว่าตื่นมาอีกวัน ผิวจะไบรท์และเปล่งประกายสดใส ดุจผิววัยแรกสาวแน่นอน
10.พักผ่อนให้เพียงพอ
- นับว่าเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก ไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่ทำให้การทำงานไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในออฟฟิศเพียงอย่างเดียว แต่กลับตามไปทุกหนแห่ง ทำให้เวลาในพักผ่อนน้อยลง รวมถึงหลายคนต้องทำงานทั้งงานหลักและงานเสริมหารายได้ให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต อย่างไรก็ตาม การนอนน้อยเป็นหนึ่งในปัจจัยสาเหตุหลักที่นำไปสู่ความเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง และทำให้เกิดริ้วรอยแก่กว่าวัย ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรจัดสรรตารางชีวิตให้เหมาะสม จำกัดปริมาณงานที่ทำในแต่ละวัน ลดการใช้งานสมาร์ทโฟนลงเพื่อให้พักผ่อนได้มากขึ้นในแต่ละวัน
และนี่ก็คือ 10 วิธีป้องกันริ้วรอยก่อนวัยอย่างได้ผล จากนี้ไปเพียงคุณหมั่นปฏิบัติตามคำแนะนำจากเรา ริ้วรอยจะกลายเป็นแค่ปัญหาจิ๊บๆ แถมยังได้ผลพลอยได้ตรงที่คุณจะมีผิวหน้าที่สวยสดใส อ่อนเยาว์ ดุจวัยแรกสาวเลยทีเดียว