ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะในการทำดีท็อกซ์ การดีท็อกซ์ลำไส้เป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือกที่หลายๆ คนรู้จักจากสื่อโฆษณาต่างๆ โดยเชื่อว่าเป็นหนทางในการดูแลสุขภาพ อีกทั้งหลายๆ คนยังหวังผลว่าการขับสารพิษจากการทำดีท็อกซ์จะช่วยในการดูแลรักษารูปร่างและควบคุมน้ำหนัก แต่คุณทราบหรือไม่ว่าวิธีดีท็อกซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำดีท็อกซ์โดยสวนล้างลำไส้เป็นสิ่งที่ควรควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่เหมือนกับการดีท็อกซ์ทำเองและไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะในการทำดีท็อกซ์
นอกเหนือจากการทำสวนล้างลำไส้ (สวนทวร) ยังมีวิธีอื่นๆ ที่แพทย์ทางเลือกเชื่อว่าสามารถจะกำจัดพิษออกจากร่างกายได้แก่
ดีท็อกซ์เป็นวิธีการล้างพิษของการแพทย์ทางเลือก ที่ทางสำนักงานสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้แจ้งเตือนห้ามทำใน 7 กลุ่มคนเหล่านี้
ตัวเลือกอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนสุขภาพที่ดีของระบบขับถ่าย ได้แก่
อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกของไทย กล่าวว่า การทำดีท็อกซ์ในกรณีของการสวนล้างลำไส้ใหญ่ส่วนล่างนั้น จะต้องอยู่ในความดูแลและได้รับการแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีขั้นตอนการทำตามหลักการแพทย์ แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการในการขับพิษจากร่างกายที่ดีและปลอดภัยที่สุด คือการป้องกันท้องผูก ทำได้โดยการออกกำลังกายเพื่อให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่นผัก ผลไม้ และดื่มน้ำวันละไม่ต่ำกว่า 8 แก้ว เพื่อให้ระบบการขับถ่ายปกติ เพียงเท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งการทำดีท็อกซ์
การทำดีท็อกซ์นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายคนจึงเกิดคำถามว่าทำไมต้องดีท็อกซ์ลำไส้? ก็เพื่อหวังผลการขับสารพิษจากร่างกายทางอุจจาระนั่นเอง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ปัญหาระบบขับถ่าย และมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยหวังผลในด้านความงาม เช่น ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดหน้าท้อง เพิ่มความสวยงามผิวพรรณ ดังนั้น หากคุณตัดสินใจจะทำดีท็อกซ์ควรทราบว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ห้ามทำดีท็อกซ์หรือไม่ รวมทั้งศึกษาถึงกระบวนการทำดีท็อกซ์ที่เหมาะสมกับตนเองเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพถึงแก่ชีวิต
อ้างอิง :