ผลัดเซลล์ผิวหน้า ด้วยเซรั่มวิตามินซี ใช้ผิดวิธีมีข้อเสียเหมือนกัน!
ผลัดเซลล์ผิวหน้า ด้วยเซรั่มวิตามินซี เป็นที่ทราบกันดีว่า วิตามินซีนั้นเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรับเข้าสู่ร่างกายผ่านการทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี อาหารเสริม หรือสกินแคร์ต่าง ๆ แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าการที่ร่างกายรับวิตามินซีมากเกินไป หรือใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีผิดวิธีนั้นก็ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้เช่นกัน ส่วนจะมีข้อเสียอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
1.ก่อให้เกิดอาการแพ้
- การเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว นับว่าเป็นกฎข้อแรกของการใช้เครื่องสำอางเลยทีเดียว เพราะหากคุณไม่ทราบว่าลักษณะของผิวพรรณคุณเป็นแบบไหน ก็มีความเสี่ยงที่เมื่อใช้สกินแคร์ต่าง ๆ แล้วจะทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้อย่างง่ายดาย แม้แต่เซรั่มที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติอย่างวิตามินซีก็สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน เนื่องจากวิตามินซีที่นำมาสกัดเป็นเซรั่มแต่ละชนิดนั้นมีที่มาที่แตกต่างหลากหลาย อันอาจทำให้คนที่มีผิวแพ้ง่ายได้รับผลข้างเคียงโดยไม่ได้ตั้งใจได้ ฉะนั้น การตรวจสอบส่วนผสมของเซรั่มก่อนการซื้อหรือลงมือใช้จึงเป็นหัวใจสำคัญของการใช้สกินแคร์อย่างปลอดภัย หากคุณเป็นคนผิวแพ้ง่าย คุณอาจสนใจบทความนี้ การรักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ
2.สิวเสี้ยนเพิ่มมากขึ้น
- การใช้เซรั่มวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไป แทนที่จะส่งผลดีช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังมีการผลัดเซลล์ที่ตายแล้วมาเป็นเซลล์ใหม่ได้เร็วมากยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน ปริมาณเซรั่มที่มากเกินไปอาจเข้าไปอุดตันตามรูขุมขนต่าง ๆ บนใบหน้า ทำให้เกิดสิวเสี้ยนตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนั้น ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย หากเลือกใช้เซรั่มวิตามินซีที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงในรูปแบบของสิวเสี้ยน ผื่นแดง และอาการคันระคายเคืองได้เช่นกัน เนื่องจากสารสกัดที่เป็นที่มาของวิตามินซีในเซรั่มอาจจะทำปฏิกิริยาของผิวหน้าของคุณ แทนที่จะช่วยปรับสมดุลผิว กลายเป็นสร้างความปั่นป่วนให้กับระบบภูมิคุ้มกันแทน ฉะนั้น คุณควรตรวจสอบส่วนผสมของเซรั่มให้รอบคอบก่อนซื้อมาใช้งานหรือศึกษาวิธีฟื้นฟูผิวหน้าให้ถูกจุด
3.ใช้กับสกินแคร์ผิด ชีวิตเปลี่ยน
- กฎของการใช้สกินแคร์มีอยู่ข้อหนึ่งที่สาว ๆ ทุกคนควรให้ความสำคัญ นั่นคือการจับคู่สกินแคร์ให้ถูกต้อง เพราะสกินแคร์บางชนิดไม่สามารถใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติหรือส่วนผสมที่ขัดแย้งกันได้ เพราะจะส่งผลให้ทำปฏิกิริยาต่อกัน และก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้ ยกตัวอย่างเช่น เซรั่มวิตามินซีไม่ควรใช้กับสาร Benzoyl Peroxide ที่ถูกใช้ในการยากำจัดสิวบางชนิด รวมทั้งสาร AHA/BHA ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์คล้ายคลึงกับวิตามินซี แต่หากใช้ร่วมกันแล้ว แทนที่จะผสานพลังกันบำรุงผิวพรรณ กลับส่งผลข้างเคียงให้เกิดอาการแพ้หรือคันระคายเคืองได้ เพราะฉะนั้น ควรหลีกเลี่ยง เช่นเดียวกับคอลลาเจนที่ไม่ควรใช้ร่วมกับเซรั่มวิตามินซี เนื่องจากจะเป็นตัวดักสารอาหารจากวิตามินซีไม่ให้ซึมเข้าไปภายในผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กมากไป
- แม้ว่าวิตามินซีจะช่วยให้เพิ่มธาตุเหล็กให้กับร่างกาย ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันโรคโลหิตจางหรือลูคีเมียรูปแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากร่างกายได้รับวิตามินซีมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากการใช้เซรั่มวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินควรในแต่ละวัน หรือมีการทานอาหารเสริมวิตามินซีเพิ่มเติมได้ อาจส่งผลทำให้ร่างกายได้รับปริมาณธาตุเหล็กมากเกินไปจนเป็นอันตรายต่อระบบการทำงานภายใน โดยเฉพาะภาวะเป็นพิษจากธาตุเหล็กที่ส่งผลเสียต่อระบบไหลเวียนโลหิต การทำงานของระบบประสาทและสมอง และระบบภูมิคุ้มกันได้มากเช่นกัน
5.ไม่ให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
- แม้ว่าจะได้ส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่การใช้เซรั่มวิตามินซีผิดวิธีนั้นอาจจะทำให้คุณต้องเสียเงินเปล่า เพราะไม่ได้ในสิ่งที่คุณคาดหวังจากการซื้อผลิตภัณฑ์เซรั่มวิตามินซีมาใช้งานตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะใช้งานผิดวิธีนั้นจะหมายถึงการจับคู่กับสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติบดบังฤทธิ์ของเซรั่มวิตามินซี หรือการเลือกเซรั่มที่ผลิตขึ้นมาสำหรับผิวอีกประเภทหนึ่ง เช่น คุณต้องการลดความมันแต่เป็นเลือกเซรั่มสำหรับคนผิวแห้งกร้าน ย่อมไม่ตอบโจทย์ความต้องการ ทำให้เสียเงินฟรี และไม่ได้รับผลลัพธ์ใด ๆ จากการหมั่นทาเซรั่มวิตามินซีทุกวันนั่นเอง
ผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากวิตามินซีนั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด แต่ละชนิดล้วนแล้วแต่มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน รวมทั้งเซรั่มวิตามินซีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้าได้ดีหากใช้ถูกวิธี อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้เซรั่มดังกล่าวผิดวิธีตามที่บทความนี้ได้นำเสนอให้ทราบแล้ว ก็มีโอกาสที่คุณจะได้รับผลข้างเคียงโดยไม่ตั้งใจได้เช่นกัน