เชื่อได้เลยว่าในปัจจุบันหลายคนจะต้องดื่ม กาแฟลดน้ำหนัก หรือดื่มกาแฟกันเป็นประจำอย่างแน่นอน อาจจะด้วยความเคยชินของร่างกายที่เคยดื่มกาแฟอยู่ในทุก ๆ วัน และกาแฟยังมีคาเฟอีน ที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวได้มากกว่าเดิม ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้มากขึ้น โดยปกติแล้วเราจะดื่มกาแฟในช่วงเช้าหรือหลังตื่นนอนในทันที แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่า การดื่มกาแฟจะไม่ได้ช่วยให้เราหายง่วงในทันที แต่หากเราดื่มกาแฟในช่วงเช้าจะช่วยให้หายง่วงหรือมีความกระปรี้กระเปร่าได้ในช่วงกลางวันนั่นเอง
ทั้งนี้ กาแฟในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายประเภทด้วยกัน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์กาแฟที่เป็นอาหารเสริมลดความอ้วน แต่เชื่อว่ามีหลายคนสงสัยกันอย่างแน่นอนว่า กาแฟสามารถลดความอ้วนได้จริงหรือไม่ เพราะจะมีส่วนผสมของนม น้ำตาล และครีมเทียม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้อ้วนได้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นหากใครกำลังสงสัยเกี่ยวกับกาแฟลดความอ้วน ไปดูกันเลยว่า กาแฟจะช่วยลดความอ้วนได้จริงหรือไม่
โดยปกติแล้วการดื่ม กาแฟลดน้ำหนัก หรือกาแฟปกติที่เราดื่มกันเป็นประจำ จะมีคาเฟอีนที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นหัวใจ และระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยให้เรามีความรู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า และสมองโล่งได้มากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างเช่น จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ช่วยให้การดื่มกาแฟสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยการดื่มกาแฟจะช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่าปกติถึง 10% เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้การดื่มกาแฟที่ดี ควรดื่มกาแฟดำหรือกาแฟที่ไม่ใส่น้ำตาล หรือครีมเทียมใด ๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยควบคุมความหิว หรือความอยากอาหารลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความอยากของหวาน แถมยังเร่งการเผาผลาญในร่างกายได้อีกด้วย เรียกได้ว่ากาแฟจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มการเผาผลาญในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถลดความอยากอาหารได้ดีที่สุด
และในปัจจุบันทุกคนจะเห็นได้เลยว่า ตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ จะมีการขายกาแฟลดน้ำหนักอยู่มากมาย ที่จะมีการโฆษณาว่ากินแล้วผอม น้ำหนักหาย หรือช่วยลดน้ำหนักได้เพียงแค่กินกาแฟ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่า กาแฟลดน้ำหนักที่เราเห็นตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ จะมีลักษณะที่แตกต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไป เพราะกาแฟทั่วไปเราจะดื่ม เพื่อลดความง่วง ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า และกาแฟปกติก็มีส่วนช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญในร่างกายได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว
แต่กาแฟลดน้ำหนักนั้น จะมีส่วนช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญมากขึ้นไปอีก เพื่อให้เห็นว่ากาแฟลดน้ำหนักสามารถลดน้ำหนักได้จริง และผอมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับยาลดน้ำหนักตามอินเทอร์เน็ตนั่นเอง ดังนั้น หากเราดื่มกาแฟลดน้ำหนักและสามารถลดได้อย่างรวดเร็ว จะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นเดียวกัน เพราะในปัจจุบันมีทั้งกาแฟลดน้ำหนัก หรือยาลดความอ้วน หลากหลายแบรนด์ที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. สวมเลข อย. หรือปลอมเลข อย. เป็นต้น ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อกาแฟเหล่านี้ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด
โดยปกติแล้วกาแฟสดจะมีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟคั่วบดอย่างเดียวเท่านั้น แต่หากเป็นกาแฟสำเร็จรูป จะมีทั้งกาแฟ น้ำตาล และครีมเทียมเป็นส่วนผสม แต่หากเป็นกาแฟลดน้ำหนัก เห็นผลจริงนั้น จะมีสารสกัดหรือส่วนผสมอื่น ๆ ที่จะเป็นตัวช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญ ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานได้มากยิ่งขึ้น หรือส่วนผสมที่ช่วยให้ดื่มกาแฟแล้วอยู่ท้องได้มากกว่าเดิม ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มได้อย่างรวดเร็วหรือสิ่งที่ยับยั้งการย่อยของแป้ง เปลี่ยนให้แป้งกลายเป็นน้ำตาลเพื่อใช้เป็นพลังงาน ซึ่งปกติแล้วหากเป็นกาแฟลดน้ำหนักที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน จะมีส่วนผสมที่ถูกสกัดมาจากธรรมชาติ อย่างเช่น สาหร่าย, ถั่วขาว, โกจิเบอร์รี่, ส้มแขก, กระบองเพชร, เห็ดหลินจือ, ไฟเบอร์, หรือไคโตซาน เป็นต้น เพราะสารสกัดเหล่านี้จะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายแน่นอน
แต่ทั้งนี้ก็จะมีสารสกัดที่ก่อให้เกิดความอันตรายต่อร่างกายด้วยเช่นกัน อย่างเช่น สารขับปัสสาวะ ที่จะมีผลให้ร่างกายขับน้ำออกในปริมาณมาก เพื่อช่วยให้น้ำหนักลดลงได้มากกว่าเดิม สารกระตุ้นประสาทที่มีส่วนช่วยให้เรามีความรู้สึกเบื่ออาหาร ไม่อยากรับประทานอาหาร และเมื่อเรามีความรู้สึกเหล่านี้แล้วจะทำให้ลดน้ำหนักได้มากกว่าเดิม รวมทั้งสารเร่งการเผาผลาญด้วยเช่นกัน แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าตัวสารต่าง ๆ เหล่านี้มักจะไม่ถูกระบุเอาไว้ข้างกล่อง เพื่อทำให้เราแยกได้ยากกว่าเดิมว่ากาแฟลดน้ำหนักยี่ห้อไหนปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัยบ้าง
สำหรับการดื่มกาแฟลดน้ำหนักที่มีสารต่าง ๆ เหล่านี้ เมื่อเราดื่มเข้าไปแล้วจะทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานผิดปกติ หรือเกิดอาการแปลก ๆ อย่างเช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม ความดันโลหิตสูง ใจสั่น นอนไม่หลับ เวียนหัว ประสาทหลอน รู้สึกเบลอ มึนงง ไม่มีสมาธิ ปากแห้ง หายใจผิดปกติ หรือหากใครที่มีอาการหนักอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องเคยดื่มกาแฟลดน้ำหนัก รีวิว และสามารถลดน้ำหนักได้ผลกันมาก่อนแน่นอน เพราะกาแฟจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้เป็นอย่างดี และในปัจจุบันยังมีแบรนด์กาแฟลดน้ำหนักเกิดขึ้นมาอยู่ในเรื่อย ๆ แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าการดื่มกาแฟเพื่อลดน้ำหนักอาจจะไม่ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว เพราะด้วยความที่การลดน้ำหนักขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารและการควบคุมแคลอรีในการรับประทานอาหาร
หากเรารับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป กาแฟที่เราดื่มเข้าไปจะไม่ได้ช่วยเผาผลาญพลังงานเหล่านั้นออกมาได้ทั้งหมด และเมื่อร่างกายมีปริมาณแคลอรีที่มากเกินไป แคลอรีเหล่านั้นจะถูกนำไปสะสมไว้ในร่างกาย ส่งผลให้อ้วนได้มากกว่าเดิม ดังนั้นการดื่มกาแฟเพื่อช่วยเผาผลาญเพียงอย่างเดียว จะเป็นการลดน้ำหนักที่ไม่มีประสิทธิภาพ เราจึงควรควบคุมอาหาร และออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญได้ดีขึ้นกว่าเดิม
และนอกจากนี้หากเราเลือกดื่มกาแฟลดน้ำหนักที่มีสารต่าง ๆ ช่วยควบคุมหิว หรือช่วยให้รู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ในทางกลับกันหากเราเลิกดื่มกาแฟไปแล้ว แน่นอนว่าร่างกายของเราจะต้องกลับมาอยากรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น และเราจะรู้สึกหิว ดังนั้นเมื่อเรากลับมารับประทานอาหารเหมือนเดิมหลังจากเลิกดื่มกาแฟไปแล้ว ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ และทำให้น้ำหนักกลับมาเท่าเดิมได้อย่างง่ายดาย หรือหากบางคนอาจจะมีน้ำหนักที่ดีดตัวขึ้นมามากกว่าเดิมได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การดื่มกาแฟเพื่อลดน้ำหนักจึงใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่นัก อาจจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ในภายหลัง และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อีกด้วย
โดยปกติแล้วการดื่มกาแฟของคนส่วนใหญ่ มักจะดื่มในช่วงเวลาหลังตื่นนอน หรือในช่วงเที่ยงวันเป็นส่วนใหญ่ เพราะหลายคนเชื่อว่าการดื่มกาแฟจะช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้มากกว่าเดิม และหากเราดื่มในช่วงเช้า จะช่วยให้เรามีความกระปรี้กระเปร่า พร้อมการทำงานตลอดทั้งวัน และในระหว่างวันจะเลือกดื่มกาแฟอีกครั้งในช่วงเที่ยงหรือบ่าย เพราะการดื่มกาแฟเพิ่มในช่วงนี้ จะช่วยให้เราสามารถคิดงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้สมองแล่นได้มากกว่าเดิม แต่หากเป็นการดื่มกาแฟลดความอ้วน สำหรับคนดื้อยา ควรดื่มในช่วงไหนดีที่สุด
สำหรับใครที่ทำงานออฟฟิศ หรือจำเป็นต้องออกไปทำงานข้างนอกบ้าน การดื่มกาแฟในช่วงเช้า หรือดื่มกาแฟเวลาประมาณ 09.30-11.30 น. จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะในช่วงนี้ระดับการทำงานของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เราตื่นตัวเริ่มต่ำลงหลังจากที่เราตื่นนอนมาสักระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นการเติมคาเฟอีนเข้าไปจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวได้มากกว่าเดิม สมองของเราจะโล่งมากขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และที่สำคัญจะช่วยลดความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การทำงานระหว่างวันราบรื่นมากที่สุด และที่สำคัญการดื่มกาแฟในช่วงเวลานี้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเร่งระบบการเผาผลาญไขมัน หรือแคลอรีได้อย่างดีเยี่ยมตลอดทั้งวัน รับรองได้เลยว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดน้ำหนักได้ดีที่สุด
และการดื่มกาแฟลดน้ำหนักสามารถดื่มในช่วงบ่ายได้เช่นเดียวกัน ยิ่งสำหรับใครที่ต้องการลดความอ้วนด้วยแล้ว ควรดื่มกาแฟหลังอาหารเที่ยงประมาณ 30-60 นาที เพราะกาแฟจะเข้าไปช่วยในเรื่องการคุมหิว ช่วยให้เราอิ่มได้นานยิ่งขึ้น ลดการรับประทานขนมจุกจิก ช่วยควบคุมปริมาณการรับประทานอาหารในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี
ยิ่งหากใครที่ดื่มกาแฟร้อนด้วยแล้ว จะช่วยส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม และหากเราเลือกควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย รับรองได้เลยว่าจะช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้เป็นอย่างดี ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดแน่นอน
สำหรับการดื่มกาแฟในช่วงเย็นนั้น จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสำหรับการดื่มกาแฟเท่าไหร่นัก เพราะในช่วงหลัง 16.00 น. ขึ้นไปนั้น การดื่มกาแฟจะไม่ช่วยให้ประโยชน์ต่อร่างกาย แถมยังส่งผลเสียต่อร่างกายได้อีกด้วย เพราะคาเฟอีนในกาแฟจะทำให้เราหลับได้ยากมากขึ้น และยังไม่ควรดื่มกาแฟในช่วงที่เราท้องว่าง เพราะคาเฟอีนจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้เป็นโรคกระเพาะได้ง่าย ดังนั้นหากใครต้องการดื่มกาแฟในช่วงนี้จะต้องรับประทานอาหารประเภทอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย หรือเลือกดื่มกาแฟให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
การดื่มกาแฟลดน้ำหนัก ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเร่งระบบการเผาผลาญให้แก่ร่างกายได้มากกว่าเดิม แต่ถึงแม้ว่าจะดื่มกาแฟลดน้ำหนักแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรับประทานอาหารได้ตามใจชอบ แต่เราควรควบคุมอาหารเหมือนเดิม และเลือกออกกำลังกาย เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเร่งการเผาผลาญได้ดีที่สุด รับรองได้เลยว่าการดื่มกาแฟและออกกำลังกายควบคู่กันไป จะลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
อ้างอิง