สำหรับใครที่กำลังมองหา วิธีลดน้ำหนักไม่โยโย่ อยู่นั้น ต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันมีวิธีช่วยลดน้ำหนักอยู่มากมาย แต่หลาย ๆ คนก็ยังมองหาวิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือวิธีลดน้ำหนักแบบเร่งลัดกันอยู่ เพราะต้องการลดน้ำหนักอย่างง่ายดาย และรวดเร็วมากที่สุด แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าวิธีลดน้ำหนัก 7 วัน หรือวิธีลดน้ำหนัก 1 เดือน จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์มากที่สุด เพราะการลดน้ำหนักที่รวดเร็วส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการลดปริมาณน้ำหรือมวลกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งในร่างกาย ส่งผลให้น้ำหนักลงได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเรากลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ โดยไม่ลดน้ำหนัก รวมถึงรับประทานอาหารแบบปกติ จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้ง่าย น้ำหนักที่เคยลดลงจะดีดตัวกลับมาเท่าเดิม หรือบางคนอาจจะมีน้ำหนักที่มากกว่าเดิมเลยก็ว่าได้ ดังนั้น การลดน้ำหนักที่ดี ไม่ควรลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว แต่ต้องค่อย ๆ ลดน้ำหนักไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพได้อย่างเหมาะสม ในบทความนี้จะพาทุกคนมา รู้จักกับภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทไหน และลดน้ำหนักด้วยวิธีไหนที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโยโย่เอฟเฟกต์
สำหรับใครที่เป็นคนอ้วน หรือมีน้ำหนักที่เกินมาตรฐานนั้น เชื่อได้เลยว่าจะต้องผ่านการลดน้ำหนัก ไม่โยโย่กันมาอย่างนับไม่ถ้วนแน่นอน เพราะคงไม่มีใครอยากมีรูปร่างอ้วนท้วน หรือมีน้ำหนักที่มากกว่าเกณฑ์อย่างแน่นอน เพราะการมีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์นอกจากจะทำให้รูปร่างเราไม่สวยงามแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องมองว่า วิธีลดน้ำหนักไม่โยโย่ อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดการเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์นั่นเอง
ซึ่งภาวะโยโย่เอฟเฟกต์จะเป็นภาวะที่น้ำหนักตัวขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่เป็นประจำ และโดยปกติแล้วเมื่อร่างกายของเราเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์แล้ว จะส่งผลให้น้ำหนักตัวของเราเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม หรืออาจจะส่งผลให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเราจะควบคุมน้ำหนักหรือออกกำลังกายมากเพียงใดก็ตาม ด้วยความที่ร่างกายอยู่ในภาวะที่มีไขมันมากเกินไป ร่วมกับมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง ส่งผลเสียต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายได้อีกด้วย
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของการเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์นั้น จะเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง ร่างกายขาดการออกกำลังกาย หรือบางคนอาจจะเกิดจากสาเหตุที่ใช้ยาลดความอ้วน แต่สำหรับใครที่มีอายุน้อยอยู่ และมีร่างกายที่แข็งแรง อาจจะยังไม่เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ในครั้งแรก แต่หากยังฝืนที่จะลดน้ำหนักแบบผิดวิธี หรือยังรับประทานยาลดความอ้วนอยู่นั้น ก็จะให้ความรู้สึกว่าร่างกายไม่สามารถลดน้ำหนักได้ และจะจบลงด้วยภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ในที่สุด รวมไปถึงการอดอาหารด้วยเช่นกัน
ซึ่งการอดอาหาร เพื่อลดน้ำหนักจะสามารถลดได้จริงในช่วงแรก ๆ เนื่องจากร่างกายจะมีการสูญเสียน้ำ และมวลกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งไป โดยส่วนนี้จะส่งผลเสียต่ออัตราการเผาผลาญในร่างกายเป็นอย่างมาก แต่หากเรากลับมารับประทานอาหารแบบปกติแล้ว ร่างกายของเราจะกลับมามีน้ำหนักมากเท่าเดิม หรือบางคนอาจจะมากกว่าเดิมได้เช่นกัน ด้วยความที่กล้ามเนื้อที่เป็นตัวช่วยเผาผลาญพลังงานมีมวลน้อยลง และทำให้การลดน้ำหนักในครั้งถัดไปยากขึ้นกว่าเดิม
การลดน้ำหนักของหลาย ๆ คน เชื่อได้เลยว่าจะต้องเลือกวิธีการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วกันแน่นอน เพราะทุกคนไม่อยากเหนื่อยจากการลดน้ำหนัก หรือการออกกำลังกาย อีกทั้งยังไม่อยากควบคุมอาหารอีกด้วย จึงเลือกวิธีการลดน้ำหนักแบบผิด ๆ และหากร่างกายของเรามีการลดน้ำหนักแบบผิด ๆ เมื่อลดนานไปจะเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้อย่างง่ายดาย
และต้องบอกเลยว่าโยโย่เอฟเฟกต์ แก้ยังไง จะต้องใช้วิธีแก้ และเวลาในการแก้ที่นานเป็นอย่างมาก เพราะหากร่างกายของเราสูญเสียมวลกล้ามเนื้อเป็นจำนวนมาก จะต้องรอให้ร่างกายสร้างมวลกล้ามเนื้อที่จะเป็นตัวช่วยการเผาผลาญกลับขึ้นมาใหม่ ถึงแม้ว่าร่างกายของเราจะมีมวลกล้ามเนื้อใหม่แล้ว แต่การลดน้ำหนักในครั้งถัดไปจะยากมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากระบบในร่างกายของเราสูญเสียไปมาก
ดังนั้น หากใครต้องการลดน้ำหนักอย่างเหมาะสม ควรเลือกวิธีลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง เพื่อลดการเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้มากที่สุด และวิธีการลดน้ำหนักอย่างเหมาะสมที่หลาย ๆ คนนิยมใช้กันเป็นอย่างมาก คือ การควบคุมอาหาร หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารนั่นเอง แต่จะมีวิธีการรับประทานอาหารช่วยลดน้ำหนัก และป้องกันภาวะโยโย่เอฟเฟกต์อย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารเช้าที่ให้พลังงานสูง ให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้เป็นอย่างดี และเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันในตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากอาหารเช้าได้มากที่สุด
หากพูดถึงสมัยก่อนถ้าเราพูดว่าจะลดความอ้วน เชื่อได้เลยว่าจะเป็นเรื่องแปลกใหม่ของหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสนใจในเรื่องการลดน้ำหนักเท่าไหร่นัก แต่การลดน้ำหนักในสมัยก่อน โดยส่วนใหญ่จะเป็นการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี หรือเลือกที่จะเชื่อวิธีการลดน้ำหนักแบบผิด ๆ ก่อให้เกิดภาวะโยโย่ได้อย่างง่ายดาย อย่างเช่น ความเชื่อเรื่องการงดรับประทานแป้งหรือข้าว จะช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่าเดิม รวมทั้งความเชื่อในเรื่องการอดอาหาร ที่จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วหรือความเชื่อเรื่องงดรับประทานอาหารเย็น ที่จะทำให้ผอมได้มากกว่าเดิม ซึ่งความจริงแล้วความเชื่อเหล่านี้ถือเป็นความเชื่อแบบผิด ๆ ทั้งหมด เพราะการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง จะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ด้วยการควบคุมปริมาณการรับประทานอาหารให้เพียงพอต่อที่ร่างกายไม่ต้อง ไม่รับประทานอาหารให้แคลอรีเกิน และที่สำคัญจำเป็นต้องรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้งาน
และสำหรับใครที่เป็นสายปาร์ตี้ การเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดน้ำหนักได้เช่นเดียวกัน เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเต็มไปด้วยน้ำตาล ยิ่งเราดื่มมากเท่าไหร่จะทำให้มีพุงมากขึ้นเท่านั้น และนอกจากนี้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังลดประสิทธิภาพการเผาผลาญของร่างกายได้อีกด้วย
เพราะโดยปกติแล้วหากเราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องดื่มร่วมกับของกินเล่นประเภทอื่น ๆ อย่างแน่นอน และหากร่างกายของเราได้รับแอลกอฮอล์เมื่อไหร่ ร่างกายจะเผาผลาญเพียงแอลกอฮอล์ออกมาเท่านั้น เพราะถือเป็นของเสียที่ร่างกายจำเป็นต้องนำออกโดยด่วน จนร่างกายไม่สามารถเผาผลาญพลังงานประเภทอื่น ๆ ได้ พลังงานประเภทอื่นจึงต้องเข้าไปสะสมในร่างกาย ทำให้อ้วนได้ในที่สุด
หากเราต้องการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี หรือช่วยแก้โยโย่เอฟเฟกต์ จะสามารถทำได้อย่างง่ายดาย และเป็นวิธีลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารให้ถูกหลัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะทั้งการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย จำเป็นต้องทำควบคู่กันไป เพื่อเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเดิม ดังนั้น จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้อีกด้วย และนอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่จะช่วยลดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น
สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และช่วยลดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้เป็นอย่างดี การลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายควบคู่กันไป จะเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้ไม่ยาก แม้ว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติเหล่านี้ อาจจะลดน้ำหนักได้ช้ากว่าวิธีอื่น ๆ แต่รับรองได้เลยว่าจะเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่มั่นคง และไม่เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์อย่างแน่นอน
อ้างอิง