เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องสงสัยกันอย่างแน่นอนว่า ดีท็อกซ์แบบกิน กับดีท็อกซ์แบบล้างลำไส้ มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง หรือมีส่วนช่วยในด้านใด เพราะในปัจจุบันจะเห็นได้เลยว่า การดีท็อกซ์ลำไส้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น หลาย ๆ คนก็มองหารีวิวดีท็อกซ์ตัวไหนดีเพื่อมาลองใช้ ทั้งการสวนล้างลำไส้ และ ดีท็อกซ์แบบการรับประทาน ที่จะมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวางขายตามท้องตลาดทั่ว ๆ ไปหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน ซึ่งดีท็อกซ์จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการล้างลำไส้ ที่จะล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่ในลำไส้ให้หมดไป เพราะโดยปกติแล้วลำไส้จะมีของเสียตกค้างอยู่มากมาย ที่ร่างกายเราไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้ทั้งหมด และเมื่อลำไส้ของเรามีการสะสมของของเสียไปเรื่อย ๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาวได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นการดีท็อกซ์ลำไส้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ช่วยให้ร่างกายของเรามีสุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับดีท็อกซ์ล้างลำไส้ด้วยการสวน มีลักษณะอย่างไร,ดีท็อกซ์แบบสวนลำไส้ หรือแบบรับประทานเห็นผลได้มากกว่ากัน และประโยชน์ของการดีท็อกซ์ล้างลำไส้ ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า การดีท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันจะมี 2 วิธีด้วยกัน ได้แก่ ดีท็อกซ์แบบกิน และดีท็อกซ์แบบล้างลำไส้ ซึ่งดีท็อกซ์แบบกินนั้น จะเป็นการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ในการขับถ่าย อย่างเช่น การรับประทานอาหารหมักดอง การรับประทานผลไม้ที่มีฤทธิ์ในการขับถ่าย หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูง ที่จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี หรือหากง่ายที่สุดคือการรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทไฟเบอร์นั่นเอง
ซึ่งการดีท็อกซ์ด้วยการรับประทานอาหารนั้น จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ร่างกายของเรามีประสิทธิภาพในการขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น ถ่ายได้มากขึ้นกว่าเดิม และยังสามารถนำของเสียที่สะสมอยู่ตามผนังลำไส้ออกมาได้อีกด้วย โดยการดีท็อกซ์แบบการรับประทานอาหารนั้น จะเป็นวิธีการดีท็อกซ์ทางธรรมชาติ ไม่มีความอันตราย และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายแน่นอน
แต่ก่อนที่จะดีท็อกซ์ด้วยการรับประทานอาหาร เราควรเตรียมตัวให้ดีเสียก่อน เพราะการดีท็อกซ์จะเป็นการนำของเสียออกจากร่างกาย ดังนั้นอาจจะมีข้อจำกัด อย่างเช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างไม่เหมาะสำหรับการดีท็อกซ์ รวมทั้งผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอก็ไม่ควรดีท็อกซ์เช่นเดียวกัน เนื่องจากการดีท็อกซ์อาจจะทำให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุบางอย่างได้ จนอาจจะก่อให้เกิดความอันตรายต่อร่างกายได้นั่นเอง
ทั้งนี้หากใครต้องการรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดีท็อกซ์ เราจำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารเสริมที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัยมากที่สุด เพราะบางสูตรของอาหารเสริมดีท็อกซ์ อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้โดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างเช่น การรับประทานยาถ่ายในปริมาณมาก หรือการอดอาหารเพื่อรับประทานเพียงอาหารเสริมดีท็อกซ์อย่างเดียวเท่านั้น เพราะการรับประทานอาหารเสริมดีท็อกซ์ในลักษณะนี้ อาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดีได้นั่นเอง
และการดีท็อกซ์ลำไส้อีกหนึ่งประเภท ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน คือ การดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการสวน ซึ่งการดีท็อกช่วยอะไร จะเป็นตัวช่วยล้างลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกคนรู้หรือไม่ว่าดีท็อกซ์ประเภทนี้มีมานานแล้ว แต่อาจจะไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเท่าไหร่นัก ส่งผลให้หลาย ๆ คนไม่รู้จักนั่นเอง โดยดีท็อกซ์ประเภทนี้จะเป็นการใช้น้ำ หรือสารประเภทอื่น ๆ ฉีดสวนเข้าที่ทวารหนัก เพื่อนำสารหรือน้ำเข้าไปเพื่อล้างลำไส้
แต่จะต้องบอกก่อนเลยว่าการดีท็อกซ์ประเภทนี้จำเป็นต้องทำโดยแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากเป็นประเภทการดีท็อกซ์ที่ค่อนข้างอันตรายหากทำแบบผิดวิธี อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรติดต่อโรงพยาบาล หรือคลินิกที่เชี่ยวชาญการดีท็อกซ์แบบสวนลำไส้อย่างเดียวเท่านั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ร่างกายได้มากกว่าเดิม
สำหรับการดีท็อกซ์แบบสวนลำไส้ ยังมีการแบ่งวิธีการดีท็อกซ์ออกเป็น 2 วิธีด้วยกัน ได้แก่ การดีท็อกซ์สวนลำไส้ในระดับล่าง ที่จะเป็นการสวนลำไส้เพียง 30 เซนติเมตรสุดท้ายของลำไส้เท่านั้น โดยจะมีการใช้น้ำหรือสารเพียง 1-1.5 ลิตร และการดีท็อกซ์สวนลำไส้อีก 1 วิธี คือ การดีท็อกซ์ในระดับบน ซึ่งการดีท็อกซ์วิธีนี้จะเป็นการล้างทั่วทั้งลำไส้เลยก็ว่าได้
ดังนั้นจะมีการใช้น้ำอุ่นในปริมาณมากเพียงใช้ในการสวนล้างเข้าไปในลำไส้ทั้งหมด ผ่านเครื่องมือล้างลำไส้ที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐาน ซึ่งเครื่องมือนี้จะสามารถควบคุมอุณหภูมิ แรงดัน และปริมาณของน้ำได้เป็นอย่างดี แต่การดีท็อกซ์ลำไส้ในระดับบนจะต้องทำในโรงพยาบาลที่มีเครื่องล้างลำไส้เท่านั้น และในระหว่างการทำจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลตลอดระยะเวลาการทำ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องสงสัยกันอย่างแน่นอน ว่าการดีท็อกล้างสารพิษแบบรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอาหารเสริม กับการดีท็อกซ์แบบสวนล้างลำไส้ แบบไหนจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่ากัน ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่า การดีท็อกซ์ทั้งสองวิธีจะเป็นตัวช่วยล้างของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้ได้ทั้งสิ้น แต่หากถามถึงประสิทธิภาพที่ดีกว่า แน่นอนว่าจะต้องเป็นการดีท็อกซ์สวนล้างลำไส้อย่างแน่นอน เพราะจะสามารถล้างลำไส้ได้โดยตรง โดยที่เราสามารถเลือกได้ว่าต้องการล้างเพียงแค่ช่วงลำไส้ตอนปลายหรือต้องการล้างทั้งลำไส้ โดยการดีท็อกซ์ประเภทนี้จะช่วยล้างลำไส้ได้อย่างสะอาด โดยไม่มีของเสียตกค้างอยู่อย่างแน่นอน
แต่การดีท็อกซ์แบบรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือรับประทานอาหารเสริมช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายนั้น จะเป็นการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง หรือมีไฟเบอร์สูง เพื่อเป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายอย่างเดียวเท่านั้น และกากใยเหล่านั้นจะเข้าไปช่วยนำของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้ออกมา แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าของเสียที่สะสมอยู่นั้นออกมาทั้งหมดหรือไม่ แต่การดีท็อกซ์ประเภทนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้แล้ว ยังให้ผลดีต่อสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้วอาหารที่มีกากใยสูง หรือมีไฟเบอร์สูงนั้น ล้วนเป็นอาหารที่มีประโยชน์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ ผัก หรือธัญพืชต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้มากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อพูดถึงการดีท็อกซ์ล้างลำไส้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องสงสัยกันอย่างแน่นอนว่า ทำไมเราจึงต้องดีท็อกซ์ล้างลำไส้ เพราะโดยปกติแล้วร่างกายของเราจะมีการขับของเสียออกมาในทุก ๆ วันในรูปแบบของอุจจาระ แม้ว่าบางคนอาจจะไม่ได้ขับของเสียทุกวัน แต่ก็สามารถขับของเสียออกมาได้ 2-3 วันต่อครั้ง ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่า การขับถ่ายของเสียที่ดีจะต้องขับของเสียออกมาในทุก ๆ วัน หากนาน ๆ ถ่ายหนึ่งครั้ง เรากำลังเข้าสู่ภาวะท้องผูกนั่นเอง ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถขับของเสียออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเมื่อร่างกายของเราไม่สามารถขับของเสียออกมาได้ ทำให้ของเสียต่าง ๆ เหล่านั้นสะสมอยู่ในร่างกาย หรือลำไส้ของเรามากยิ่งขึ้น อาจจะก่อให้เกิดความอันตรายในระยะยาวได้อีกด้วย ดังนั้นการดีท็อกธรรมชาติ และการดีท็อกซ์แบบสวนลำไส้ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ยิ่งหากใครที่มีภาวะท้องผูกด้วยแล้ว จะต้องไม่พลาดเลยทีเดียว เพราะการดีท็อกซ์จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น
การดีท็อกซ์ลำไส้จะถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ดีที่สุด เพราะโดยปกติแล้วร่างกายของเราจะมีการสะสมของเสียเอาไว้อย่างแน่นอน ไม่ว่าเราจะขับถ่ายได้เป็นปกติหรือไม่ก็ตาม แต่เนื่องจากของเสียบางอย่างร่างกายจะไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้ด้วยตนเอง ดังนั้นการดีท็อกซ์ลำไส้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกมาได้ทั้งหมด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับถ่าย และระบบการทำงานภายในร่างกายได้มากขึ้นกว่าเดิม
อ้างอิง